สอบถามเพิ่มเติมที่ 0xx-xxx-xxxx

เฮลิโคเนีย หรือ ธรรมรักษา

ชื่อสามัญ                             Heliconia

ชื่อวิทยาศาสตร์                   Heliconia spp.

วงค์                                     HELICONIACEAE, MUSACEAE

ชื่ออื่น                                  ก้ามกุ้ง สร้อยกัทลี

ลักษณะทั่วไป

เฮลิโคเนีย ธรรมรักษาหรือ เป็นพรรณไม้ล้มลุก อวบน้ำ มีลำต้นใต้ดิน เรียกว่า เหง้า ลักษณะคล้ายกับกล้วย ลำต้นมีความสูงประมาณ 1 – 2 เมตร การเจริญเติบโตจะแตกหน่อออกมาเป็นกอ ใบเรียงตัวสลับกัน ลักษณะของใบคล้ายใบกล้วยหรือพุทธรักษา มีสีเขียว ผิวเรียบเป็นมัน ขนาดของใบขึ้นกับชนิดของพันธุ์ ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้น ลักษาณะช่อดอกตั้งและห้อยลง แล้วแต่ชนิดพันธุ์ ในแต่ละช่อดอกมี 4 – 8 ดอก ดอกมีสีส้ม สีแดง เหลือง และชมพู ผลคือส่วนของดอกเมื่อแก่ก็จะกลายเป็นเมล็ด

การเป็นมงคล

คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นธรรมรักษาไว้ประจำบ้าน จะช่วยคุ้มครองและรักษา ให้เกิดความสงบสุขแก่บ้านและผู้อาศัย เพราะธรรมรักษาเป็นไม้มงคลนาม นอกจากนี้ยังได้นำดอกของธรรมรักษา มาประกอบในพิธีบูชาพระได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เพราะ ธรรมรักษา หรือ ธรรมะ คือการักษาในสิ่งที่ดีงาม มีคุณธรรมซึ่งควรเคารพและบูชา ดังนั้นจึงเชื่อว่า การรักษาธรรมะ หรือ ธรรมรักษา คือ การช่วยคุ้มครองรักษานั่นเอง

ชนิดและพันธุ์ที่นิยมปลูกเป็นไม้มงล

1. ชิตาคอรัม       : ( H. psittacorum)

2. แคริเบีย        : ( H. coribaea)

3.ซาร์เตซี          : ( H. chartacea)

4. เพนดูล          : ( H. pendula)

ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก

เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัยควรปลูกต้นธรรมรักษาไว้ทางทิศใต้หรือทางทิศตะวันออกก็ได้ ผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เอาประโยชน์ทางดอกให้ปลูกในวันพุธ

การปลูก วิธีที่นิยมปลูกมี 2 วิธี คือ

1). การปลูกในแปลงปลูก ทำกัน 2 แบบ
    1.1การปลูกในแปลงใหญ่หรือปลูกในสวนคือปลูกเป็นจำนวนมากใช้ขนาดแปลงกว้างประมาณ12เมตรโดยยกคันดินเป็นร่องคล้าย
         กับแปลงปลูกผัก ขนาดหลุมปลูกประมาณ 30 x 30 x30เซนติเมตรระยะปลูกประมาณ12เมตร การเตรียมดินโดยการไถพรวนดิน
         แล้วผสมปุ๋ยอินทรีย์ลงไป อัตราประมาณ 30 – 50กิโลกรัม/แปลงในขนาดแปลงปลูกประมาณ 2 x 30 เมตร
    1.2 การปลูกในแปลงปลูกขนาดเล็ก ที่มีจำนวนพื้นที่จำกัด เช่น การปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านหรือสวน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x         30 เซนติเมตรใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก:ดินร่วนอัตรา1:1ผสมดินปลูกแต่ถ้าจะให้สวยงามควรปลูกเป็นกลุ่มเพราะจะได้เห็นความ
         สวยงามของดอกได้เด่นชัดขึ้น

2). การปลูกในกระถางเพื่อใช้ประดับอาคารบ้านเรือน นิยมใช้เป็นดอกประดับภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางสูงขนาด 10 – 16 นิ้ว     ใช้ปุ๋ยคอก : แกลบผุ : ดินร่วน อัตรา 1 : 1 : 1 ผสมดินปลูก และควรเปลี่ยนกระถาง 12ปี/ครั้งเพราะการขยายตัวของรากแน่นเกินไป
     และเพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่แทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป

การดูแลรักษา

แสง                                    ต้องการแสงแดดร่ม รำไร จนถึงแดดจัด หรือกลางแจ้ง

น้ำ                                      ต้องการปริมาณน้ำปานกลางจนถึงมาก ควรให้น้ำ 3 – 5 วัน / ครั้ง

ดิน                                     ดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย

ปุ๋ย                                     ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1-2 กิโลกรัม/กอ ใส่ปีละ 4-6 ครั้ง

การขยายพันธุ์                    การเพาะเมล็ด การแยกกอ การเพาะเลี้ยเนื้อเยื่อ

วิธีที่นิยมและได้ผลดีคือ       การแยกกอ

โรคศัตรู                            ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและศัตรูจะพบเพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง

อาการ                                กัดดูดน้ำเลี้ยงบริเวณใบ ก้านใบและยอดอ่อนทำให้ใบเลือง เหี่ยวเฉา

การป้องกัน                         กำจัดพาหะพวกมดต่างๆ โดยใช้ยานิโคตินซัลเฟต 40 % อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก

การกำจัด                            ใช้ยานิโคตินซัลเฟต 40 % หรือ ไดซีสตอน เมทาซีสทอกซ์ อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก