"สวนนงนุช" คว้าเหรียญทองจัดสวนโลกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ปิติ "ราชินีอังกฤษ" ชื่นชมสวนไทย
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พร้อมทั้งราชวงศ์เสด็จทอดพระเนตรชมการจัดสวนทั้งภายใน และภายนอก ทรงทอดพระเนตรการจัดสวนประเทศไทย ชื่นชมจัดดอกไม้ได้สวยงาม คณะกรรมการตัดสินมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ประเทศไทยเป็นแชมป์เหรียญทองปีที่ 4 ประชาชนจองตั๋วล่วงหน้า 5 แสนคน แห่เข้าชมการจัดสวน 531 แห่ง

การตัดสินรางวัลการประกวดจัดสวนเชลซีฟลาวเวอร์โชว์ 2013 ครบรอบ 100 ปี ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และก่อนที่จะเปิดให้ประชาชนที่ซื้อบัตรไว้ล่วงหน้า จำนวน 5 แสน คนเข้าชม ในช่วงเช้าได้เปิดให้เป็นรอบของสื่อมวลชน และบุคคลสำคัญ

ในช่วงเย็นของวันเดียวกันนี้ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พร้อมทั้งราชวงศ์เสด็จทอดพระเนตรชมการจัดสวนทั้งภายใน และภายนอก ทรงทอดพระเนตรการจัดสวนของประเทศไทย โดยเมืองพัทยา และสวนนงนุชพัทยา

โดยมี นายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา รับเสด็จ ซึ่ง สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และทุกๆพระองค์ทรงชื่นชมการจัดสวนที่มีความสวยงามอย่างมาก

นายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า ประเทศไทยเปรียบเสมือนตัวแทนอาเซียนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดสวนแข่งขันในครั้งนี้เพียงประเทศเดียว นับเป็นความโชคดีของประเทศไทยอย่างมาก ที่มีการกำหนดเส้นทางเสด็จชมสวนของ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร

และทุกพระองค์ในราชวงศ์ ได้ผ่านสวนของประเทศไทย พระองค์ได้หยุดทอดพระเนตร ชื่นชมการจัดสวนด้วยดอกกล้วยไม้หลากหลายสี นานาชนิด ซึ่งดอกกล้วยไม้ดังกล่าวเป็นดอกกล้วยไม้ของประเทศไทยที่ส่งออกจำหน่ายต่างประเทศด้วย

ซึ่งยอมรับว่าพระองค์ท่านทรงให้ความสำคัญกับงานเชลซี ฟลาวเวอร์โชว์ อย่างมาก สร้างความปลื้มปิติ ขวัญกำลังใจและความประทับใจให้กับตัวแทนแต่ละประเทศที่เดินทางมาร่วมจัดสวนโชว์ในแต่ละปีอีกด้วย ซึ่งปีนี้มีเข้าร่วมแข่งขันถึง 531 สวนจากประเทศทั่วโลก

ความโดดเด่น สวยงามตระการตาของสวนกล้วยไม้ไทยในปีนี้ เป็นฝีมือจัดสวนทีมไทยชุดเดิมเมื่อปีที่แล้วที่ได้แชมป์เหรียญทอง โดยทุกคนทั้งทีมปั้นและทีมจัดดอกไม้ ต่างภาคภูมิในฐานะตัวแทนคนไทยแสดงฝีมือให้ต่างชาติได้ประทับใจ แม้การจัดดอกไม้ในปีนี้จะเอียดและยากกว่าทุกปี

แต่ก็ได้ทำสุดฝีมือ อีกทั้งเป็นการโชว์สถาปัตยกรรมของประเทศไทยได้อย่างงดงาม ละเอียดอ่อน

นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ได้เดินทางมาเกาะติดสถานการณ์ตั้งแต่เริ่มจัดสวนวันแรกๆ เพื่อเป็นเป็นขวัญ กำลังใจให้กับ ทีมงานในการจัดสวนทุกคนของสวนนงนุชพัทยา ยอมรับว่าทุกคนเหน็ดเหนื่อย ไม่มีเวลาพักผ่อน ต้องทำงานให้เสร็จตรงตามเวลา ตรงรูปแบบที่ได้เสนอให้กับคณะกรรมการผู้จัดงาน

ซึ่งถือว่าปีนี้ไม่มีอุปสรรคใด ๆ ดอกไม้ยังมีความสวยสด งดงาม ปีนี้มีความสำคัญอย่างมากในการจัดงานประกวดจัดสวน เพราะครบรอบ 100 ปี ได้มีนักจัดสวนถึง 531 แห่งให้ความสนใจ เดินทางมาร่วมจัดสวนโชว์

เพื่อแสดงถึงศักยภาพ ภูมิปัญญา และมิติต่าง ๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้กับวิถีชีวิตประจำวันได้จริง ตลอดจนการสื่อถึงวิถีธรรมชาติ ที่ต้องอยู่ร่วมกับมนุษย์ สัตว์ สิ่งมีชีวิต วัตถุได้อย่างยั่งยืน และการจัดงานทุกปี ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวในกลุ่มประเทศอาเซียน ที่ได้ร่วมประกวดในงานเชลซีฟลาวเวอร์โชว์ 2013

สำหรับไทยปีนี้เป็นเพียงประเทศเดียวในอาเซียนที่เข้าร่วมการประกวดในงานนี้ ซึ่งก่อนหน้าก็มีทั้งมาเลเซียและสิงคโปร์เข้าร่วม แต่ปีนี้ไม่ได้มาร่วมจัดประกวดด้วย และสามารถคว้าเหรียญทอง ครองแชมป์เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน ได้สำเร็จ

นับเป็นความปลาบปลื้มปิติใจของทีมงานอย่างมาก ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ดอกไม้ไทยได้สำเร็จ




ขอบคุณ มติชนออนไลน์

สวนนงนุช คว้าเหรียญทองจัดสวนโลกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน

กล่าวกันว่าต้นอโศกเป็นต้นไม้ที่มีรูปทรงสวยงามราวกับสถูป ในอินเดียถือว่า ‘อโศก’ เป็นสัญลักษณ์ของความรัก และมักใช้ดอกอโศกถวายพระกามเทพ


และในวรรณกรรมอิงพุทธประวัติเรื่อง “กามนิต” โดย เสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป นั้น ต้นอโศกได้เข้ามาเกี่ยวพันกับความรักของกามนิต เพราะบริเวณที่กามนิตได้พบกับวาสิฏฐีทุกค่ำคืน ก็คือลานอโศกนั่นเอง ดังที่กามนิตได้พรรณนาถึงเรื่องราวบนลานอโศกไว้ว่า


“ข้าพเจ้ากับโสมทัตต์ได้ไปหาคู่รักทุกคืน ยิ่งคืนข้าพเจ้ากับวาสิฏฐีผู้ประสบขุมทรัพย์ใหม่ๆ อันเกิดต่อความร่วมรักของเรา ยิ่งทวีความที่อยากพบกันมากขึ้นทุกที ดวงจันทร์ฉายแสงดูยิ่งสว่าง หินอ่อนรู้สึกว่ายิ่งเย็นชื่นใจ กลิ่นดอกมะลิซ้อนหอมเย็นยิ่งขึ้น เสียงนกโกกิลายิ่งโหยหวน เสียงลมพัดถูกกิ่งปาล์ม ทำให้วังเวงมากขึ้น ตลอดจนกิ่งอโศกที่แกว่งไกวก็มีเสียงดูดั่งจะกระซิบกระซาบกัน สิ่งเหล่านี้เห็นจะไม่มีเหมือนแล้วตลอดโลก !


เฮ้อ ! ถึงเดี๋ยวนี้ ข้าพเจ้ายังระลึกและจำต้นอโศกเหล่านั้นได้แม่นยำ ว่ามีอยู่เรียงกันเป็นแถวตลอดไปตามยาวของลานนั้น และใต้ต้นอโศกเหล่านี้ เราทั้งสองเคยประคองพากันเดินเล่น จนเราให้สมญาลานนั้นว่า “ลานอโศก” เพราะต้นไม้ชนิดนั้นกวีให้ชื่อว่า “อโศก” หรือบางทีเรียกว่า “สุขหฤทัย” ข้าพเจ้ายังไม่เคยเห็นต้นอโศกที่ไหน ใหญ่โตงามเหมือนกับที่มีอยู่บนลานนั้น ใบซึ่งคอยสั่นไหวอยู่เสมอ เห็นเป็นเลื่อมพรายเงินเมื่อต้องแสงจันทร์ เมื่อลมโชยมาก็มีเสียงปานว่า หนุ่มสาวกระซิบกัน เวลานั้นแม้จะย่างเข้าสู่วสันตฤดู คงยังแตกดอกออกช่อเป็นสีแดงบ้างเหลืองบ้าง แก่อ่อนสลับกันไป”


อโศก เป็นชื่อต้นไม้หลายชนิดในสกุล Saraca วงศ์ Leguminosae เช่น อโศกน้ำ อโศกเหลือง เป็นต้น มีชื่อเรียกสามัญว่า Asoka Tree มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงราว 10-20 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดกลม ใบเป็นมันดกทึบ ใบรูปหอก ยาวประมาณ 10-15 ซม. ปลายใบแหลม ก้านใบสั้นติดกิ่ง


ดอกจะออกเป็นช่อบริเวณปลายกิ่ง เริ่มแรกดอกจะมีสีเหลือง และจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแสดหรือสีส้ม จนกระทั่งเป็นสีแดง ตามอายุของดอก ดังนั้นบางครั้งในแต่ละช่วงจะเห็นสีทั้งสามแซมสลับกันอย่างสวยงาม มีกลีบรองดอกยาวเหมือนดอกเข็ม ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ และจะออกดอกในราวเดือนมกราคม-เมษายน ส่วนฝักมีลักษณะแบนยาว มีช่อละ 1-2 ฝัก เมื่อแก่จะมีสีน้ำตาลและแตกออก แต่ละฝักมีเมล็ด 2-3 เมล็ด


ประโยชน์ของอโศกทางด้านพืชสมุนไพรนั้น เช่น ที่อินเดียได้นำเปลือกมาสกัดเป็นยา ใช้รักษาอาการเลือดลมผิดปกติในผู้หญิง เช่น ประจำเดือนมาผิดปกติ โรคระดูขาว โรคเลือดออกในมดลูก และโรคริดสีดวงทวาร เป็นต้น


‘อโศก’ ไม่ใช่เป็นเพียงแต่ชื่อของต้นไม้เท่านั้น แต่ยังเป็นชื่อของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งอินเดียนั่นก็คือ ‘พระเจ้าอโศกมหาราช’ กษัตริย์นักรบนักรักผู้ยุติการทำสงคราม และหันมาใฝ่พระทัยในพุทธศาสนา ทรงใช้ธรรมะปกครองบ้านเมือง และทรงอุปถัมภ์บำรุงและเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก จนเรียกได้ว่าเป็นยุคที่พระพุทธศาสนารุ่งเรืองทั่วชมพูทวีป และแผ่กว้างไกลออกไปในต่างแดน

 
 
ขอบคุณ dhammajak.net
 

อโศก ต้นไม้ในพุทธประวัติสัญลักษณ์ของความรัก

วันนี้เรารวบรวมความรู้เรื่องประโยชน์ของดอกมะลิและสรรพคุณของดอกมะลิมาฝากคุณ ๆ ทุกคนกันเลยค่ะ นอกจากดอกมะลิจะเป็นดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมแล้ว ประโยชน์ของดอกมะลิ ของดอกมะลิก็ยังมีมากมายอีกด้วยยิ่งเป็นวันแม่ด้วยแล้วเรียกได้ว่าดอกมะลิมีความหมายมาก ๆ เลยค่ะ และวันนี้ไม่ใช่แค่เพียง ประโยชน์ของดอกมะลิ เท่านั้นนะค่ะ


เรายังมี สรรพคุณของดอกมะลิ ที่มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรและยารักษาบางโรคได้อีกด้วยค่ะ นั้นเรามาดูประโยชน์ของดอกมะลิและสรรพคุณของดอกมะลิกันเลยค่ะ

- ประโยชน์ของดอกมะลิ
คนสมัยก่อน นอกจากจะนิยมปลูกดอกมะลิเอาไว้เป็นไม้ดอกไม้ประดับเพื่อชื่นชมกับดอกสีขาวสวยนุ่มนวลชวนมองแล้ว เขายังเก็บดอกมะลิตูมมาใส่พานหรือถ้ามีเวลาว่างพอก็จะนำมาร้อยเป็นมาลัยกราบบูชาพระอีกด้วย กลิ่นหอมอ่อน ๆ อบอวลของดอกมะลิที่อยู่ในห้องพระให้ความรู้สึกสงบใจอีกต่างหาก

นอกจากนี้ยังนำดอกมะลิมาลอยในน้ำดื่มเย็น ๆ ให้แขกผู้มาเยือนได้ดื่มกันอย่างชื่นอกชื่นใจ หรือจะนำดอกมะลิไปลอยในน้ำเชื่อมกินกับขนมหวานไทยก็ทำให้มีกลิ่นหอมชวนทานแต่ทั้งนี้ต้องมั่นใจว่า ดอกมะลิที่นำมาใช้ไม่ได้ฉีดยาฆ่าแมลง

- สรรพคุณของดอกมะลิ
ส่วนสรรพคุณทางสมุนไพรของมะลิก็มีแทบทุกส่วนก็ว่าได้ไล่กันไปตั้งแต่รากเรื่อยไปจนถึงดอกทีเดียว รากของมะลิแก้ได้สารพัดโรคทั้งปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก เลือดออกตามไรฟัน รวมทั้งช่วยรักษาหลอดลมอักเสบได้ด้วย หากนำรากมาฝนกินกับน้ำแก้ร้อนในได้ดี คนที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับทรวงอกให้นำรากมาประมาณ 1-1.5 กรัม ต้มน้ำกินก็ช่วยได้

ส่วนใบใช้แก้ไข้ที่เกิดจากอาการเปลี่ยนแปลงได้ดีรวมทั้งรักษาอาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องเสีย หากนำใบมาตำแล้วละลายกับน้ำปูนใสแต้มแผลฟกช้ำ แผลเรื้อรัง โรคผิวหนังจะหายไวขึ้น ตลอดจนช่วยบำรุงสายตาและขับน้ำนมสตรีที่มีครรภ์ได้ด้วย

สุดท้ายคือส่วนของดอก ดอกมะลินอกจากความสวยและความหอมแล้วยังแก้โรคบิด อาการปวดท้อง หากตำให้ละเอียดพอกที่ขมับ แก้อาการปวดหัวและปวดหูชั้นกลางได้ แถมยังช่วยรักษาแผลพุพอง แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย รวมทั้งเป็นยาบำรุงหัวใจได้อย่างดีเยี่ยมอีกขนานหนึ่งด้วย

นี่แหละคุณค่าของ ดอกมะลิ ดอกไม้ไทยที่หาได้ง่ายๆ ใกล้ๆ ตัว ใกล้ใจ และใกล้มือจริงๆ

 
 

ขอบคุณ : สาระดี @ plus.google และ lisa
 

ดอกมะลิก็มีประโยชน์

ผักชี กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต

ใบสด ประกอบด้วย โปรตีน ใยอาหาร ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน (Beta – carotene) และ วิตามินซี พบว่า ถ้ารับประทานผักชี 1 ขีด จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินซีเท่ากับปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน

นอกจากนี้ยังมีน้ำมันหอมระเหยในกลุ่มเทอร์ปีน (Terpenes) ซึ่งทำให้เกิดกลิ่นหอมเฉพาะตัวผลหรือลูกผักชี จัดเป็นเครื่องเทศที่มีกลิ่นแรง เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับใบสด จะมีน้ำมันหอมระเหยในปริมาณมากกว่า โดยเฉพาะชนิด ลินาโลออล (Linalool)

ด้านสรรพคุณทางยา ผักชีมีรสเผ็ดร้อน ช่วยแก้ไข้ ขับเหงื่อ ขับลม เจริญอาหาร แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต บำรุงกระเพาะอาหาร และบรรเทาอาการโรคข้ออักเสบ
 
 ขอบคุณ : สาระดี @ plus.google
 

ผักชี กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต

ไม้ต้นนี้ เพิ่งพบมีวางขาย ปลูกในกระถางดำขนาดกะทัดรัด แตกใบสีสันแปลกตาสวยงามน่าชมมาก

ผู้ขายบอกว่าเป็นไม้นำเข้าจากต่างประเทศ แต่จำไม่ได้ว่าจากประเทศไหนและบอกต่อว่าเป็นไม้ในสกุล หน้าวัวใบ ชนิดหนึ่ง ไม่มีดอก มีลักษณะเด่นคือ เมื่อแตกใบสีของใบช่วงแรกจะเป็นสีเหลืองปนเขียว จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ผู้นำเข้าจึงตั้งชื่อเป็นภาษาไทยให้เป็นมงคลว่า “เงินหนาสีทอง” พร้อมขยายพันธุ์ออกขายกำลังได้รับความนิยมจากผู้ปลูกไม้ใบอย่างแพร่หลายอยู่ในเวลานี้

เงินหนาสีทอง หรือ หน้าวัวใบ เป็นไม้มีเหง้า หรือหน่อใต้ดิน ต้นสูงเต็มที่ตามที่ผู้ขายบอกประมาณ 2-3 นิ้วฟุต ลำต้นกลม ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับรอบลำต้น ใบเป็นรูปรีกว้างเกือบกลม ปลายใบแหลมเป็นติ่ง โคนใบมน ขอบใบเรียบ เนื้อใบค่อนข้างหนา ผิวใบเรียบ เมื่อแตกใบแรกๆ สีของใบจะเป็นสีเหลืองปนเขียวอ่อน

จากนั้น จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองตามความแก่ของใบ ก้านใบสั้น เวลามีใบดกดูคล้ายใบพลูที่กินกับหมาก เป็นสีเหลืองทองสวยงามมาก ผู้ขายบอกว่า “เงินหนาสีทอง” หรือ หน้าวัวใบ ขยายพันธุ์ด้วยหน่อหรือปักชำต้น

ปัจจุบัน “เงินหนาสีทอง” หรือ หน้าวัวใบ มีขายที่ ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 5 แผง “คุณเมฆ” ติดกับทางออกประตู 3 ราคาสอบถามกันเอง ปลูกได้ในดินทั่วไป นิยมปลูกเป็นไม้ประดับโชว์ความสวยงามของใบ โดยส่วนใหญ่จะปลูกลงกระถางตั้งในที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวันและลมพัดโกรกดี ใช้ดินปลูกที่มีส่วนผสมของแกลบดำ 1 ส่วน เพื่อทำให้ดินร่วนซุย ทำทางระบายน้ำก้นกระถางปลูกให้ดี อย่าให้มีน้ำท่วมขังได้อย่างเด็ดขาด รดน้ำพอชุ่มวันละครั้งตอนเช้า บำรุงปุ๋ยสูตร 16-16-16 เดือนละครั้ง จะทำให้มีใบดกสีสันสวยงามครับ.


“นายเกษตร”

credit : thairathnews

เงินหนาสีทอง  ไม้ใบชื่อมงคลใบสวย

ดอกกุหลาบสีม่วง
ที่มา FWmail

ดอกกุหลาบสีม่วง

ดอกกุหลาบสีม่วง