คำแสด : ความงามจากผลและเมล็ด
คำแสดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง หรือไม้พุ่มขนาดใหญ่ สูงประมาณ ๓-๕ เมตร คำแสดมีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Bixa orellana Linn. อยู่ในวงศ์ Bixaceae ชื่อสามัญคือ Annatto tree คำแสดมีใบคล้ายใบโพธิ์ ก้าน-ใบยาวสีแดง หน้าใบสีเขียวเป็นมัน ท้องใบสีเทาหรือเขียวอมน้ำตาล ใบบางนุ่ม ไม่ผลัดใบ
ดอก ออกเป็นช่อใหญ่ตามปลาย ยอดของกิ่ง ดอกมีสีขาวหรือชมพู รูปร่างคล้ายดอกกุหลาบ กลีบดอกมี ชั้นเดียว ปกติออกดอกช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนมกราคม
ผล มีรูปไข่ ขนาดราว ๒.๕ x ๔ เซนติเมตร ผิวนอกของผลปกคลุม ด้วยขนยาวคล้ายผลเงาะ เมื่อแก่จัดผิวนอกและขนกลายเป็นสีเหลืองหรือ แดงส้ม รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ตาม ปลายกิ่งดูสวยงามและติดอยู่ได้นาน
เมล็ด แต่ละผลมีเมล็ดขนาดเล็กอยู่ภายในประมาณ ๕๐ เมล็ด แต่ละเมล็ดจะห่อหุ้มด้วยผงสีแดงส้ม ซึ่งเกิดจากสารที่ชื่อ bixin และ orellin เป็นหลัก
คำแสดมีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่แถบเขตร้อนของทวีปอเมริกาตอนกลาง ต่อมาได้ขยายต่อไปทางเหนือและใต้ เช่น เม็กซิโก กัวเตมาลา และ บราซิล ก่อนถูกนำไปปลูกในเขตร้อน ทั่วโลก สำหรับประเทศไทยพบปลูกคำแสดในทุกภาค แต่คาดว่าคำแสดคงเข้ามาในประเทศไทยไม่เกิน ๑๕๐ ปีนี้ เพราะไม่พบเอ่ยถึงในวรรณคดียุคกรุงศรีอยุธยาหรือกรุงรัตนโกสินทร์ ตอนต้น แม้แต่หนังสืออักขราภิธานศรับท์ ของหมอปรัดเล พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๖ (๑๒๙ ปีมาแล้ว) ก็ไม่ได้กล่าวถึงคำแสดเลย
คำแสดมีชื่อเรียกในประเทศไทยหลายชื่อ เช่น คำแสด คำเงาะ คำไทย (กรุงเทพฯ) คำแชด, คำ (ภาค กลาง) มะกายหยุม คำยงแสด (ภาค เหนือ) ส้มปู้ จำปู้ (สุรินทร์) หมักซิตี (เลย) ชาด (ใต้)
คำว่าชาด ที่ภาคใต้นำมาเรียกชื่อคำแสดนั้น คงเป็นเพราะเมล็ดคำแสดให้สีแดงส้ม ซึ่งคล้ายกับสีของชาด ซึ่งคนไทยคุ้นเคยกันมาก่อน ชาดมีหลายชนิด ส่วนใหญ่ใช้ผสมกับ ยาแผนไทยดั้งเดิม หรือผสมน้ำมันใช้ประทับตรา หรือทาสิ่งของให้สีแดง สีที่ได้จากเมล็ดคำแสดไม่ใช่ชาด แม้ ในภาคใต้จะเรียกชื่อเดียวกันก็ตาม
ประโยชน์ของคำแสด
ในทางสมุนไพร คำแสดใช้รักษาโรคได้หลายอย่าง เช่น
ดอก : รสหวาน บำรุงหนองและเลือดให้บริบูรณ์ แก้แสบร้อนตามผิวหนัง แก้พิษ บำรุงเลือด แก้เลือดจาง แก้บิด แก้ไตพิการ ฯลฯ
เมล็ด : ตัดไข้จับ สมาน แก้ลม
เนื้อหุ้มเมล็ด : เป็นยาระบาย
ส่วนที่ใช้ประโยชน์จากคำแสด มากที่สุดก็คือสีที่ได้จากเนื้อหุ้มเมล็ด นั่นเอง คนท้องถิ่นดั้งเดิมในเขต อเมซอนใช้ทาตามร่างกายและใบหน้า แสดงเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใช้ย้อมเสื้อผ้า ส่วนคนรุ่นใหม่ในประเทศพัฒนาแล้ว นำสีจากเมล็ดคำแสดมาใช้เป็นการค้า เรียกว่า annatto เป็นศัพท์เฉพาะใช้เรียกสีที่สกัดได้จาก เนื้อหุ้มเมล็ดคำแสด โดยมีกรรมวิธีสกัดสี ๒ วิธี คือ หมักกับน้ำร้อน หรือต้มกับน้ำยา sodium carbo-nate และเกลือแกง
สี annatto จากคำแสดใช้ย้อมฝ้ายและไหม และแต่งสีอาหารที่เป็นไขมัน เช่น เนย เนยแข็ง เนย เทียม ฯลฯ หรือเพิ่มความเข้มของไข่ แดง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผู้นำมาใช้เป็นยาขัดพื้น ยาขัดรองเท้า และเครื่องสำอางบางชนิด
เนื่องจากสีจากคำแสด (annatto) เป็นสีจากพืชพันธุ์ธรรมชาติจึงมีสีเฉพาะตัวและไม่เป็นพิษภัยเหมือนสีสังเคราะห์จากสารเคมี แนว โน้มความนิยมจึงเพิ่มขึ้น คนไทยในชนบทที่กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภท หนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล น่าจะลองใช้ประโยชน์จากสีของคำแสดให้มากขึ้น ทั้งด้านย้อมผ้า ผสมอาหาร ยาสมุนไพร หรือเครื่องสำอางจากธรรมชาติ ฯลฯ เพราะคำแสดปลูกได้ ง่ายในทุกภูมิภาคและคนในชนบทรู้จักคุ้นเคยอยู่แล้ว
เปลือกต้นคำแสดใช้ทำเชือกได้ ดี ส่วนในแง่ไม้ประดับ คำแสดก็ได้รับความนิยมปลูกอยู่ทั่วไป เพราะนอกจากดอกก็ยังมีผลที่เป็นกลุ่มสวยงามกว่าดอกเสียอีก และทนทาน กว่าดอกหลายเท่าอีกด้วย ในประเทศ ไทยส่วนใหญ่ปลูกพันธุ์ผลสีแดง ในบราซิลมีพันธุ์ผลสีเหลือง ซึ่งเมื่อนำมาปลูกคู่กับพันธุ์ผลสีแดง จะทำให้เกิดความงดงามมากขึ้น
เมล็ดใหม่ จำนวนมาก
สอบถามที่085-1818772 หรือที่
plantname@hotmail.com