เว็บบอร์ดไม้ประดับออนไลน์
พฤษภาคม 17, 2011, 02:21:16 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดไม้ประดับออนไลน์อยู่ระหว่างการทดลองใช้งานถ้ามีปัญหาถ้าพบเจอข้อผิดพลาดสมาชิกกรุณาแจ้ง webmaster ดว้ยครับ
 
  Home   เว็บบอร์ด   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มงคลแห่งความเจริญ  (อ่าน 41 ครั้ง)
ninemaipradab
Hero Member
*****
กระทู้: 587


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2011, 10:35:56 PM »

มงคลแห่งความเจริญ


* มงคลแห่งความเจริญ.jpg (66.01 KB, 400x300 - ดู 16 ครั้ง.)
บันทึกการเข้า
ninemaipradab
Hero Member
*****
กระทู้: 587


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 04, 2011, 10:36:57 PM »

มงคลแห่งความเจริญ

ในมงคลสูตร 38 ประการ ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ มงคลคาถาที่ 5 มีความว่า การให้ทาน การประพฤติเป็นธรรม การสงเคราะห์หมู่ญาติ การทำงานที่ไม่มีโทษ ทั้ง 4 ประการนี้เป็นอุดมมงคล มีอธิบายดังต่อไปนี้

คำว่า ทาน คือ การให้ ได้แก่ ความที่บุคคลมีเจตนาผ่องใสไม่โลภไม่ตระหนี่ รู้จักอารีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีน้ำใจกว้างใหญ่ไพศาล สามารถนำสิ่งของของตนออกบริจาคเป็นทาน จำแนกออกเป็น 3 ประการ คือ อามิสทาน ธรรมทาน และอภัยทาน

อามิสทาน ได้แก่ การให้ด้วยอามิสคือสิ่งของ เช่น อาหาร น้ำดื่ม ผ้า ยานพาหนะ ดอกไม้ ของหอม เป็นต้น

ธรรมทาน ได้แก่ การให้ธรรมเป็นทาน คือ แนะนำสั่งสอนให้ผู้อื่นตั้งอยู่ในธรรมหรือกล่าวธรรมให้ผู้อื่นฟังด้วยจิตเป็นกุศล เพื่อหวังผลให้ผู้อื่นตั้งตนอยู่ในธรรม รู้ทั่วถึงธรรม อันจัดเป็นอุบายให้ดำรงชีวิตอยู่ในทางที่ชอบและประกอบในสัมมาปฏิบัติ เป็นการให้ที่มีผลมากกว่าการให้ทั้งปวง ดังพุทธพจน์ที่ว่า "การให้ธรรมเป็นทาน ย่อมชนะการให้ทั้งปวง"

อภัยทาน ได้แก่ การให้อภัย คือความเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่มีภัยในบุคคลและสัตว์ทั้งหลาย ด้วยการไม่ฆ่า ไม่ล้างผลาญเบียดเบียนชีวิต ทรัพย์สมบัติ และกรรมสิทธิ์ของกันและกัน ด้วยหวังผลคือความสุขอิสระในชีวิต ในสมบัติ และในกรรมสิทธิ์ของกันและกัน อันเป็นความผาสุกที่ทุกคนปรารถนา ดังพุทธพจน์ที่ว่า "ความไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ย่อมอยู่เป็นสุขในโลก"

คำว่า ธรรมจริยา คือ การประพฤติธรรม คนที่มีธรรมจริยานั้นเรียกว่า ธรรมจารี ผู้ประพฤติธรรมเป็นปกติ การประพฤติธรรมพอสรุปได้เป็น 2 คือ

1.ประพฤติเป็นธรรม หมายถึง ทำความประพฤติของตนให้ถูกต้องและให้ดียิ่งขึ้น เช่น คนเรียนหนังสือ ก็ให้เรียนให้ถูกให้ดี ทำค้าขายก็ทำให้ถูกให้ดี และพยายามทำให้ถูกให้ดีต่อๆ ไป

2.การประพฤติตามธรรม หมายถึง การฝึกอบรมตนตามแนวทางของธรรมะให้สูงขึ้นตามลำดับ เช่น ไม่เคยรักษาศีลก็ฝึกรักษาศีล ไม่เคยบำเพ็ญภาวนา ไม่เคยสวดมนต์ไหว้พระก็ฝึกทำ อย่างนี้เรียกว่าประพฤติตามธรรมคือการทำถูกทำดี ไม่ว่าใครจะอยู่ในหน้าที่การงานอย่างไร งานทุกอย่างย่อมต้องการความถูกต้องและความดีทั้งนั้น การทำให้ถูกทำให้ดีนั้นก็จะได้ผลดี

คำว่า การสงเคราะห์ญาติ หมายถึง การรวมน้ำใจญาติให้เป็นปึกแผ่น ไม่ให้แตกแยกกระจัด กระจายกัน วิธีสงเคราะห์ก็ใช้หลักสังคหวัตถุ 4 ประการ คือ

1.การให้ปันสิ่งของ

2.การพูดจาแต่คำน่ารัก

3.การบำเพ็ญประโยชน์แก่กัน

4.การวางตัวเสมอต้นเสมอปลาย

คำว่า งานที่ไม่มีโทษ หมายถึง

1.งานทำความดีทางกาย เรียกว่า กายสุจริต

2.งานทำความดีทางวาจา เรียกว่า วจีสุจริต

3.งานทำความดีทางใจ เรียกว่า มโนสุจริต

งานที่ไม่มีโทษ ก็คืองานทั้ง 3 ทางที่ว่านี้ เป็นงานที่ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดประเพณี ไม่ผิดศีลและไม่ผิดธรรม ถ้างานใดไม่ผิดทั้ง 4 อย่างนี้ก็จัดเป็นการงานที่ไม่มีโทษ เป็นงานสูงสุดหาที่ติไม่ได้ทั้งทางโลกและทางธรรม งานที่ไม่มีโทษทำให้เกิดผลประโยชน์เป็นบุญอยู่เนืองนิตย์ บุคคลผู้บำเพ็ญ เมื่อได้แลเห็นกิจที่ตนทำสำเร็จประโยชน์แก่ผู้อื่น ก็ย่อมชุ่มชื่นเบิกบานใจได้โสมนัส เพราะรู้สึกว่ากิจที่ตนทำไม่ไร้ผล

เพราะฉะนั้น บุคคลผู้ประพฤติปฏิบัติตามมงคลแห่งความเจริญ 4 ประการ คือการให้ การบริจาคด้วยความยินดี การประพฤติธรรม ด้วยการทำตนให้เป็นชาวพุทธ การสงเคราะห์ญาติตามกำลัง และขวนขวายประกอบการงานที่ไม่มีโทษ ดังกล่าวมา ชื่อว่าได้ยึดถือประโยชน์อันเป็นมงคลคือเหตุแห่งความเจริญก้าวหน้าในชีวิตไว้ได้แล

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.13 | SMF © 2006-2008, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!