กุหลาบม่วงซูรีซี อยู่ในวงศ์ ROSACEAE เป็นไม้พุ่ม สูง 1-3 เมตร ลำต้นและกิ่งก้านมีหนาม ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ มีใบย่อย 5-7 ใบ เป็นรูปไข่ ปลายแหลม โคนมน ขอบจักเป็นฟันเลื่อย หูใบแนบติดกับก้านใบ ใบอ่อนเป็นสีเขียวปนน้ำตาลแดง ใบแก่สีเขียวสด
ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยวๆ หรือเป็นช่อที่ปลายยอด ฐานรองดอกเป็นรูปถ้วย มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอกมีตั้งแต่ 5 กลีบขึ้นไป เรียงซ้อนกันหลายชั้น เป็นสีม่วงชัดเจน มีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียจำนวนมาก ดอกเมื่อบานเต็มที่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้วฟุต ขนาดเล็กกว่ากุหลาบม่วงบรูไน แต่กลิ่นหอมแรงใกล้เคียงกัน และที่สำคัญจะบานได้ทนนานกว่ากุหลาบม่วงบรูไน จึงทำให้เวลามีดอกดกและดอกบานพร้อมกันทั้งต้นดูสวยงามน่ารักและส่งกลิ่นหอมแรง เป็นที่ประทับใจยิ่ง “ผล” เป็นรูปไข่ เมื่อสุกเป็นสีแดง มีเมล็ด ดอกออกตลอดปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ปักชำกิ่ง ตอนกิ่ง ติดตา และหน่อ
การปลูก เหมาะจะปลูกประดับทั้งแบบลงดินกลางแจ้งและปลูกลงกระถางขนาดใหญ่ทำทางระบายน้ำก้นกระถางให้ดี ตั้งในที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดวัน ซึ่งถ้าปลูกลงดินหลายๆต้น ต้องขุดดินยกแปลงให้สูง ปรุงดินที่ขุดขึ้นมาด้วยการเอาปุ๋ยคอก 1 ส่วน ฟางสับละเอียด 1 ส่วน แกลบดำ 1 ส่วน กาบมะพร้าวแห้งหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ส่วน ขี้วัวหรือขี้ควายแห้ง 1 ส่วน คลุกทุกอย่างให้เข้ากัน หลังนำต้นลงปลูกกลบดินให้แน่น หากปลูกลงดินเป็นแปลงหลายๆต้น หน้าดินหลังปลูกต้องใช้ฟางคลี่กระจายปิดทับด้วย รดน้ำพอชุ่มทั้งเช้าและเย็น บำรุงปุ๋ยจำพวกขี้วัวหรือขี้ควายแห้งโรยตามหน้าดินเดือนละครั้งสลับกับใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ครึ่งเดือนครั้ง จะทำให้ต้นแข็งแรงและมีดอกไม่ขาดต้น หลังตัดดอกควรตัดแต่งกิ่งทันที จะได้มีกิ่งใหม่แตกขึ้นมาแทนและมีดอกได้อย่างต่อเนื่อง
เอื้อเฟื้อข้อมูล โดย
www.thairath.co.th