การพัฒนาสายพันธุ์โป๊ยเซียน เพื่อให้มีพันธุ์ใหม่ๆออกมาวางขายมีอย่างต่อเนื่อง มีทั้งเป็นพันธุ์ แท้นำเข้าจากต่างประเทศที่มีดอกสวยงามแปลกตา และพันธุ์ใหม่ๆที่เกิดจากการผสมเกสร หรือเขี่ยเกสรโดยฝีมือคนไทย และเป็นพันธุ์ที่เกิดในประเทศไทย เคยแนะนำในคอลัมน์ไปหลายสายพันธุ์บ้างแล้ว ซึ่ง "โป๊ยเซียนเทพนารี" จัดเป็นสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดที่ "ชมรมโป๊ยเซียนแห่งประเทศไทย" เพิ่งจะปล่อยออกมาวางขายเมื่อไม่นานมานี้ มีลักษณะเด่นคือ ดอกจะมีขนาดใหญ่มาก โตเต็มที่ประมาณเหรียญ 10 บาทไทย มีดอกดกและเป็นช่อใหญ่ สีของดอกเป็น 2 สี หายากมาก เพราะส่วนใหญ่สีของดอกโป๊ยเซียนทั่วไปจะเป็นสีเดียวล้วนๆ ทาง "ชมรมโป๊ยเซียนแห่งประเทศไทย" จึงตั้งชื่อว่า "โป๊ยเซียนเทพนารี" และนำออกจำหน่ายดังกล่าว 
 
โป๊ยเซียนเทพนารี เป็นโป๊ยเซียนที่เกิดขึ้นจากการผสมเกสรหรือเขี่ยเกสรจากลูกไม้หลายตัวจนเป็น "โป๊ยเซียนเทพนารี" อยู่ในวงศ์ EUPHORBICEAE เป็นไม้พุ่ม สูง 1-1.5 ฟุต ลำต้นเป็นเหลี่ยม มีหนามเป็นกระจุก ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับถี่บริเวณปลายกิ่ง เป็นรูปไข่กลับ ปลายใบมนและมีขนาดใหญ่เป็นสีเขียว 
 
ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบใกล้ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดใหญ่จำนวนมาก ดอกเรียงชิดกันแน่นเป็นรูปทรงกลม หรือเป็นพวงขนาดใหญ่ เนื้อกลีบดอกค่อนข้างหนา เป็นสีขาวที่โคนกลีบดอก ขอบกลีบเป็นสีชมพูเข้มชัดเจน (ปกติสีกลีบดอกโป๊ยเซียน ทั่วไปจะเป็นสีล้วน) จึงถือ ว่าสีของดอก "โป๊ยเซียนเทพนารี" เป็นสีที่หายากมาก ดอกเมื่อบานเต็มที่จะมีเส้น ผ่าศูนย์กลางเท่าเหรียญสิบบาทไทย ทำให้เวลามีดอกและดอกบานพร้อมกันทั้งช่อดูสวยงามอลังการยิ่งนัก ดอกออกตลอดปี ขยายพันธุ์ด้วยวิธีปักชำกิ่งและผสมเกสร 
 
เติบโตได้ในดินร่วน หรือดินโปร่ง นิยมปลูกลงกระถางใหญ่หรือเล็กตามขนาดของต้นที่จะปลูก ทำทางระบายน้ำก้นกระถางให้ดี อย่าให้มีน้ำขังได้อย่างเด็ดขาด หลังปลูกนำกระถางไปตั้งในที่มีแดดทั้งวัน รดน้ำวันเว้นวัน บำรุงปุ๋ยขี้วัวหรือขี้ควายแห้งโรยตามหน้าดินรอบโคนต้นบางๆ 2 เดือนครั้ง สลับกับใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ครึ่งเดือนครั้ง จะทำให้ "โป๊ย-เซียนเทพนารี" มีดอกขนาดใหญ่ดก สีสันงดงามไม่ขาดต้น 


เอื้อเฟื้อข้อมูล โดย www.thairath.co.th