หลายคนเห็นทีแรก จะไม่รู้ว่าเป็นต้นโป๊ยเซียน เนื่องจากไม่มีจุดใดแสดงให้เห็นว่าเป็นโป๊ยเซียนเลย เริ่มจากลำต้นแตกกิ่งก้านแผ่กระจายกว้างเป็นพุ่ม ไม่มีหนามเช่นเดียวกับโป๊ยเซียนไร้หนามที่เคยแนะนำในคอลัมน์ไปแล้ว แต่โป๊ยเซียนไร้หนามชนิดนั้นจะมีดอกชี้บอกให้รู้ว่าเป็นดอกโป๊ยเซียนอย่างชัดเจน ส่วน "โป๊ยเซียนแอฟริกา" ไม่มีอะไรบ่งบอกให้รู้เลยว่าเป็นไม้ในตระกูลโป๊ยเซียน ที่สำคัญและถือเป็นเอกลักษณ์ของ "โป๊ยเซียนแอฟริกา" ได้แก่ ใบจะมีลักษณะเหมือนกับใบผักแว่น หรือใบของต้นหูกระจง ดอกมีขนาดเล็กมาก เวลาแตกกิ่งก้านเยอะและมีดอกมีใบดกจะดูสวยงามแปลกตามาก
โป๊ยเซียนแอฟริกา หรือ EUPHORBIA BONGALA VENSIS SAFF อยู่ในวงศ์ EUPHORBIACEAE มีถิ่นกำเนิดจากประเทศแอฟริกา เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 1 เมตร ลำต้นเกลี้ยง ไม่มีหนาม เป็นสีน้ำตาล เมื่อต้นแก่จะแตกล่อนออก ทำให้ลำต้นด้านในค่อยๆอ้วนขึ้น แตกกิ่งก้านเยอะและแผ่กระจายกว้าง ใบเป็นใบประกอบมีใบย่อย 4 ใบ ออกตามข้อลำต้น แต่ละใบออกตรงกันข้ามกัน ใบเป็นรูปรีหรือรูปไข่กลับ ปลายใบมน โคนใบสอบ ดูคล้ายใบผักแว่น หรือ ใบต้นหูกระจง ตามที่กล่าวข้างต้น ใบเป็นสีเขียวสด เวลามีใบดกจะดูเป็นชั้นๆ สวยงามมาก มีด้วยกัน 2 สายพันธุ์คือ ชนิดใบใหญ่จะผลัดใบในบางฤดู ส่วนชนิดใบเล็กที่เสนอประกอบคอลัมน์ ไม่ผลัดใบ
ดอก ออกเป็นช่อ 1-3 ดอก บริเวณซอกใบ มีกลีบดอกเป็นสีครีม ดอกมีขนาดเล็กมาก โตเต็มที่ประมาณหัวไม้ขีดไฟ หรือเล็กกว่านั้นอีก เวลามีดอกจะมองไม่ออกเลยว่าเป็นดอกโป๊ยเซียน ดอกออกได้เรื่อย หรือเกือบทั้งปี ขยายพันธุ์ ด้วยการปักชำต้น
การปลูก เติบโตได้ในดินทั่วไป แต่จะชอบมากคือดินร่วนปนทราย ดังนั้นดินปลูกจึงต้องเพิ่มทรายหยาบ และหินกรวด ลงไปอย่างละ 1 ส่วน นิยมปลูกลงกระถางขนาดใหญ่หรือเล็กตามขนาดของต้นที่จะปลูก ทำทางระบายน้ำก้นกระถางให้ดี อย่าให้มีน้ำท่วมขังได้อย่างเด็ดขาด หลังปลูกนำกระถางตั้งในที่แจ้ง มีแดดส่องถึงตลอดวัน รดน้ำวันละครั้ง บำรุงปุ๋ยสูตร 16-16-16 เดือนละครั้งเพียงพอที่จะทำให้ "โป๊ยเซียนแอฟริกา" เจริญงอกงาม แตกกิ่งก้านสาขาเยอะ มีใบและดอกสวยงามแปลกตา
เอื้อเฟื้อข้อมูล โดย
www.thairath.co.th