เว็บบอร์ดไม้ประดับออนไลน์
ตุลาคม 11, 2014, 11:41:43 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: บอร์ดไม้ประดับออนไลน์อยู่ระหว่างการทดลองใช้งานถ้ามีปัญหาถ้าพบเจอข้อผิดพลาดสมาชิกกรุณาแจ้ง webmaster ดว้ยครับ
 
  Home   เว็บบอร์ด   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กรรมที่มีผลต่อตา  (อ่าน 2383 ครั้ง)
admin
Administrator
Sr. Member
*****
กระทู้: 389


ดูรายละเอียด อีเมล์
« เมื่อ: มีนาคม 02, 2009, 10:14:14 PM »

สำหรับกรรมที่ทำให้ต้อง เกิดมาสายตาสั้นนั้น ต้องขอเท้าความไปถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยของเราก่อนเลยก็แล้วกันนะ ครับ เรื่องนี้ผู้ที่ถ่ายทอดเรื่องราวให้กับผมก็คือ คุณป้าอุบาสิกาถวิล วัติรางกูล ครับ ท่านได้เมตตาเล่าว่า ในราวปีพ.ศ. ๒๕๒๗ ได้มีการปฏิบัติธรรมเป็นกลุ่มเล็กๆ บนวนอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่ ในครั้งนั้นพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ท่านได้ทดลองให้คุณป้าและกลุ่มยุวกัลยาณมิตรทำการตรวจสอบถึงวิบากกรรมที่ทำ ให้ท่านต้องสายตาสั้น ปรากฏว่ามีเหตุมาจากวจีกรรมในอดีตชาติที่ท่านได้เคยล้อเลียนพระภิกษุรูป หนึ่งที่มีสายตาสั้นเอาไว้ ด้วยวิบากกรรมนี้เอง จึงส่งผลให้ท่านต้องมาเป็นดังเช่นชาติปัจจุบัน ส่วนกรรมที่ทำให้ตาบอดนั้น มีสาเหตุมาจาก

๑. กรรมทรมานสัตว์และ/หรือคนโดยการไปทำให้เขาตาบอด ส่วนอีกกรรมหนึ่งก็คือ กรรมขังสัตว์เอาไว้ในที่มืด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่นิยมขังปลาดุกปลาช่อนไว้ในตุ่มแล้วปิดฝา เพื่อเตรียมไว้สำหรับนำมาประกอบอาหาร (แต่ประการหลังนี้ส่งผลเพียงแค่ทำให้นัยน์ตามัวและฝ้าฟางแต่เพียงเท่านั้น)

๒. กรรมอทินนาทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ่อค้าแม่ขายที่ชอบขายสินค้าด้วยวิธีการปลอมปนในลักษณะของการเอาของแท้ปนของ เทียม อาทิ ค้าข้าวเปลือกอย่างเดียวยังไม่ได้ราคาขายสมใจ ต้องเอารำข้าวคลุกผสมลงไปเพื่อโกงตราชั่ง ด้วยกรรมเพียงเท่านี้ ย่อมส่งผลให้เป็นโรคตาบอดสี อันเนื่องมาจากเหตุที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนในการเลือกซื้อสินค้า นอกจากนี้ยังมีวิบากกรรมอันเผ็ดร้อนที่จะต้องไปเสวยผลในนรกภูมิดังนี้คือ ต้องไปถูกนายนิรยบาลจับนอนขึงพืดบนแผ่นเหล็กแดงร้อนแรงด้วยเปลวไฟ จากนั้นนายนิรยบาลก็จะนำเอาเบ็ดเหล็กร้อนที่ทั้งแหลมทั้งคมขนาดโตเท่าลำตาล มาสับ เชือด และเฉือนลงบนตัวของสัตว์นรก จนกระทั่งร่างกายของสัตว์นรกขาดออกจากกันเป็นชิ้นๆ ตายเกิดตายเกิดวนเวียนอยู่เช่นนี้จนกว่าจะสิ้นกรรม ซึ่งการที่สัตว์นรกอดีตพ่อค้าแม่ขายใจคดดังกล่าวต้องถูกลงทัณฑ์ด้วยอาการ เช่นนี้ อธิบายว่า การขายสินค้าปลอมปนให้กับผู้บริโภคนั้น เปรียบได้กับการเอาเหยื่อหุ้มเบ็ด ซึ่งในการนี้ ผู้ที่ทำการตกเบ็ด คือ พ่อค้าแม่ขาย ส่วนปลาที่ตกเป็นเหยื่อนั้นคือ ผู้บริโภคเช่นเราท่านทั้งหลายนั่นเอง ประกอบเหตุไว้เช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น ด้วยเหตุนี้สัตว์นรกจึงต้องมาเสวยทุกข์โทษด้วยอาการดังกล่าวตามสมควรแก่เหตุ ที่ตนได้ประกอบไว้ (ทรงจำมาจาก "เราคือใคร" เรียบเรียงโดย อุบาสิกาถวิล วัติรางกูล)

๓. กรรมกาเมสุมิจฉาจาร ที่พบเห็นได้อย่างดาษดื่นในปัจจุบันก็คือ ผู้ที่ทำการผลิตเว็บไซต์ลามกอนาจารทุกประเภทซึ่งทำให้คนบอดตาบอดใจ ลุ่มหลงมัวเมาตกเป็นทาสของกามตัณหาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ซึ่งเรื่องนี้สามารถนำมาเปรียบเทียบได้กับอดีตชาติของพระบรมโพธิสัตว์ของเรา เมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นมานพหนุ่มช่างทองครับ ด้วยความประมาทหลงคบคนชั่วเป็นมิตรจนต้องประพฤติผิดในกาม หลังจากที่ท่านต้องไปชดใช้กรรมในจตุราบายภูมิอย่างยาวนานเป็นเวลาถึง ๑๔ กัป (เห็นไหมครับว่า "กรรมชั่วแม้เพียงนิด อย่าคิดทำ หากเราทำก็เท่ากับว่า เราได้สร้างหนามแหลมขึ้นมาทิ่มตำตัวเอง") แล้ว หนึ่งในการเสวยผลกรรมนอกจากการที่ต้องเกิดมาเป็นคนที่มีความวิปริตทางเพศ แล้ว ท่านยังต้องเกิดมาเป็นคนตาบอดอีกด้วยครับ อ้อ! แล้วแต่ละอย่างที่ท่านต้องมาเกิดเป็นหลังจากที่ได้ไปชดใช้วิบากกรรมใน อบายภูมิมาแล้วจนหมดสิ้นนี่ แต่ละอย่างไม่ต่ำกว่า ๕oo ชาตินะครับ (เวรกรรมมันร้ายอย่างนี้นี่เอง)

๔. กรรมมุสาวาท ดังเช่นกรณีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ แต่อาจมีจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็ตรงที่การประกอบเหตุ กล่าวคือ แทนที่จะไปล้อคนสายตาสั้น ก็เปลี่ยนเป็นล้อเลียนคนตาบอดเสีย

๕. กรรมดื่มสุรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุราเถื่อนที่มีส่วนผสมของเมธิลแอลกอฮอล์ (Methanol) ซึ่งถ้าหากบริโภคในปริมาณมากจนเกินไปก็สามารถทำให้ตาบอดได้เช่นกัน (ข้อนี้สามารถส่งผลอย่างทันตาเห็นในภพชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้าครับ)



บุญจากการถวายแว่นตาให้ กับพระภิกษุสงฆ์ซึ่งท่านมีอาการอาพาธทางสายตา และบุญที่เราๆ ท่านๆ กำลังทำกันอย่างขมันเขม้นทุกวี่ทุกวันอยู่ในขณะนี้ก็คือ บุญอันเกิดจากการให้ธรรมทานนี่แหละครับ เพราะเป็นการหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง และถ้าจะให้ผมอธิบายแบบวิเคราะห์เจาะลึกแล้ว ก็ ต้องบอกกับทุกท่านว่า นี่คือการให้ปัญญาจักษุ อันจะเป็นเครื่องเปิดทางให้ มังสจักษุ ทิพยจักษุ สมันตจักษุ และธรรมจักษุภายในของเรา ถึงพร้อมบริบูรณ์สว่างไสวไพศาลอีกด้วยครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีข้อจำกัดอยู่ด้วยเช่นเดียวกันครับว่า หากท่านให้มิจฉาธรรมะแก่ผู้อื่น แม้ว่าในขณะนี้ท่านจะยังไม่บอดตา แต่ท่านย่อมได้ชื่อว่า เป็นผู้บอดภายใน คือ "บอดใจ" แล้วนะครับ


บทความนี้คัดลอกมาจาก : http://http://www.dmc.tv/forum/index.php?s=&showtopic=3573&view=findpost&p=17999


บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.19 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!