ร้านต้นไม้ Maipradab by kaset.today

หลายๆคนคงจะเคยได้ยินไม้ประเภทหนึ่งที่เป็นไม้ที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน และมีหลายแบบหลายประเภท โดยที่กล่าวมานี้คือ ไม้มงคล ซึ่งต้องยอมรับว่าไม้มงคล เป็นไม้ที่มีราคา และเป็นไม้หายากซะส่วนใหญ่ 

โดยไม้เหล่านี้จะถูกจัดวางและใช้ในพิธีสำคัญต่างๆ เช่น พิธีการวางศิลาฤกษ์ โดยจะใช้ไม้มงคลทั้งหมด 9 ชนิด ได้แก่ ไม้ราชพฤกษ์, ไม้ต้นขนุน, ไม้ชัยพฤกษ์ ,ไม้ทองหลาง ,ไม้ไผ่สีสุก, ไม้ทรงบาดาล ,ไม้สัก ,ไม้พะยูง ,ไม้กันเกรา ตามลำดับ 

โดยไม้มงคลเหล่านี้มีความเชื่อกันว่า หากได้นำมาใช้แล้ว นำมาก่อสร้างแล้วนั้น จะมีความสุขความเจริญ ใครที่อยู่ก็จะอยู่แบบมีความสุข ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ แถมเจริญในหน้าที่การงานในทุกๆด้าน ทั้งเรื่องเงินทอง เรื่องสุขภาพ ปัญหาต่างๆจะไม่เกิด 

เพราะไม้เหล่านี้จะช่วยส่งเสริมสิ่งดีๆและหนุนดวงได้ และจะผ่อนหนักให้เป็นเบา แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ มันก็เป็นความเชื่อตั้งแต่ในอดีตมาจนถึงปัจจุบันเท่านั้น เราไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นเรื่องจริงเท็จได้แค่ไหน แต่ของแบบนี้ไม่เชื่อย่าลบหลู่ 

และจากการสำรวจและตรวจสอบข้อมูลแล้ว ถือว่ามีโอกาสเป้นไปได้สูงจริงๆ เละเพราะเหตุผลหลายอย่างหลายประการเหล่านี้ ทำให้ต้นไม้มงคลนั้นหาได้ยากกว่าไม้ทั่วๆไป แถมไม้หลายชนิดยังเป็นไม้สงวนผู้คนห้ามครอบครอง แถมราคาของมันยังสูงกว่าไม้ทั่วๆไปด้วย อันนี้เราอ้างอิงราคาจากเพจขายต้นไม้ และร้านขายต้นไม้ทั่วไป

อีกหนึ่งต้นไม้ยอดนิยมที่ผู้คนนิยมปลูกกันเพื่อความสวยงาม และสามารถพบเห็นได้ตามตลาด ต้นไม้ คลอง 15 และร้านขายต้นไม้ทั่วไปนั้นคือ ไม้ดัด ซึ่งความหมายจริงๆของไม้ดัดคือ ไม้ที่เรานำมันมาปลูกในกระถาง แล้วพอมันโตขึ้น แตกกิ่งแยกสาขาขึ้นไป เราจึงค่อยๆตัดเพื่อตกแต่งกิ่งก้านต่างๆให้มันสวยงามมากขึ้น 

และหลังจากนั้นจึงดัดเป็นรูปทรงได้ตามใจเราต้องการ หรือจะดัดตามที่เค้านิยมดัดกันก็ได้แล้วแต่ความชอบ ความต้องการ และไม้ดัดนี้ได้รับความนิยมจากคนเล่นต้นไม้สูงเป็นจำนวนมาก เพราะมันไว้ง่ายในบ้าน หรือที่ไหนก็ได้ แถมกินพื้นที่ไม่เยอะ มาพร้อมกระถาง แค่ย้ายกระถางก็สามารถย้ายต้นไม้ได้เลยง่ายๆเช่นเดียวกัน 

ซึ่งเสน่ห์ของมันก็คือ การที่เราสามารถตัดแต่งกิ่ง และดัดแปลงรูปทรงของต้น ของกิ่ง ต่างๆของต้นไม้ได้ตามแต่ใจชอบ นั้นหมายความว่าแต่ละต้นมันจะไม่เหมือนกันเลย ทำให้ผู้คนหลายๆคนชอบไม้ประเภทนี้และสะสมไม้ประเภทนี้กันเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม้ประเภทนี้ก็มีหลายอย่าง โดยไม้ดัดยอดนิยมที่เราสามารถพบเห็นได้ง่ายๆบ่อยๆก็มี เช่น ไม้กำมะลอ ไม้หกเหียน เป็นต้น ใครสนใจลองไปหาซื้อได้ตามร้านต้นไม้ ชั้นนำทั่วไป รับรองมีต้นแรกแล้วต้องมีต้นที่สองตามมาแน่นอนสำหรับไม้ดัดนี้

ใครที่ชอบความหอมหวานของต้นไม้และดอกไม้ เราแนะนำให้ท่านลองซื้อและหาไม้จำพวก พันธุ์ไม้หอม มาปลูกและไว้ในพื้นที่ที่ตนเองอาศัยอยู่ดู เพราะไม้ประเภทนี้จะมีเสน่ห์ที่กลิ่นของมัน หากท่านนำจมูกไปดม รับรองว่าท่านจะต้องรู้สึกและสัมผัสกลิ่นมันได้แน่นอน 

แถมบางสายพันธุ์บางประเภทไม่ต้องไปดมให้เหนื่อย เพราะแค่เดินผ่าน กลิ่นก็ตีขึ้นจมูกท่านมาแล้ว ทำให้หลายๆคนนิยมใช้ไม้ประเภทนี้มาเป็นเครื่องปรับกลิ่นปรับอากาศกันเลยก็มี ซึ่งบางคนก็นำเอาดอกของไม้ประเภทนี้มาเป็นเครื่องต้นรับ ใส่ในน้ำ หรือติดไว้บนรถ เพื่อที่จะได้เพิ่มมูลค่าและทำให้มันมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนได้มากขึ้นอีกระดับหนึ่งด้วย 

โดยแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีช่วงดอกบาน และออกกลิ่นแตกต่างกันไปตามฤดูกาลด้วย ซึ่งไม้ประเภทนี้นิยมปลูกกันมากขึ้นทุกๆวัน เพราะเหตุนี้เอง ในวันนี้เราจึงจะมาแนะนำพันธุ์ไม้หอมดีๆที่น่าสนใจ เผื่อท่านใดจะนำไปปลูกก็ได้ อาทิ เช่น มะลิก้านแดง , พุดซ้อน , โมกราชินี , หิรัญญิการ์ , แก้วเจ้าจอม และอื่นๆอีกมากมายที่เราไม่ได้กล่าวถึง แต่อยากให้ท่านลองไปสัมผัสดู รับรองว่าจะต้องหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของไม้และดอกของพันธุ์ไม้หอมอย่างแน่นอน

ไม้ในร่ม พูดง่ายๆก็คือไม้ที่ไม่ชอบแสงแดดสักเท่าไหร่ อาจจะโดนแสงแดดแล้วอาจจะทำให้มันเหี่ยวเฉา แห้ง จนอาจจะตายได้ในที่สุด แต่ความหมายของต้นไม้ประเภทนี้คือ เป็นต้นไม้ที่เอาตัวรอดได้แม้จะอยู่ในที่มืดๆ หรือมีพื้นที่ไม่มากก็สามารถปลูกได้เหมาะที่จะช่วยแต่งเติมบ้านหรือที่อยู่ของคุณให้มีความเขียวขจีสบายตาเป้นอย่างมาก 

และที่ผู้คนชอบมากๆคือไม่ต้องอาศัยแดดมากก็โตได้ อันนี้ถือเป็นไฮไลท์ของมันเลยก็ว่าได้ แต่หลายๆประเภทก็ใช่ว่าจะไม่ต้องโดนแดดเลย เพราะจะให้ดีที่สุดควรโดนแดดพอดีๆไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป และโดนในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะดีมากๆด้วย และไม่ต้องใช้น้ำมากก็โตได้ เลี้ยงง่าย ปลูกง่าย สวยงาม 

ซึ่งต้นไม้ประเภทนี้จะขายดีมากๆ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นต้นไม้ที่ประดับในบ้าน ทำให้หลายคนนิยมซื้อไม้ประเภทนี้กัน ซึ่งไม้ในร่มพันธุ์เล็กที่ดี น่าสนใจ ที่นิยมกันเป็นจำนวนมาก เช่น ต้นผีเสื้อราตรี , ต้นไม้ไผ่กวนอิม , ต้นจั๋ง , ต้นกุหลาบหิน , เยอบีร่า , ต้นยางอินเดีย , บีโกเนีย , ต้นสาวน้อยประแป้ง , ต้นแก้วกาญจนา และอื่นอีกเพียบ ที่เรากล่าวมาเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะว่ามันยังมีให้เลือกอีกมาก และน่าสนใจทั้งสิ้น

ไม้ปรงคือ พันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งที่ท่านสามารถพบเห็นได้บริเวณในน้ำ และจะอยู่ในป่า หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นต้นไม้ คลอง ก็ได้ โดยรูปลักษณ์ของต้นไม้ชนิดนี้มีความน่าสนใจสูงมากๆ โดยลักษณะของลำต้นมันคือเป็นแบบกอๆ และใบจะมีรูปร่างที่ยาวแบบเห็นได้ชัด แต่ดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน ยิ่งดูยิ่งเพลิน 

จึงทำให้คนนิยมนำมันมาเป็นไม้ดอกไม้ประดับเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมันมีชื่อทางสากลนั้นคือ Cycas circinalis L. โดยต้นนี้ถูกค้นพบมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีต และถูกวิจัยว่าอยู่มาหลายพันล้านปีตั้งแต่ก่อนยุคไดโนเสาร์ด้วยซ้ำ ซึ่งรูปร่างของมันมีลักษณะคล้ายๆปาล์ม แต่ก็ไม่เหมือนสักทีเดียว 

ซึ่งปัจจุบันในไทยนั้นมีต้นปรง สามารถแบ่งออกเป็นประเภทได้ทั้งหมด 10 ประเภทหลักๆ และแต่ละประเภทก็มีภูมิลำเนา และสถานที่เกิดขึ้นแตกต่างกันไปตามแต่ละสภาพดิน ฟ้า อากาศด้วย ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำประเภทของปรง โดยประเภทแรกที่เราจะพูดถึงเลยคือปรงที่เป็นต้นพื้นเมืองของประเทศไทย 

เช่น ปรงทะเล สามารถพบได้ตามทะเล , ปรงมะพร้าวสีดา สามารถพบได้ที่ปราณบุรี , ปรงเหลี่ยม สามารถพบเห็นได้ทั่วไทยยกเว้นภาคใต้ เป็นต้น ส่วนปรงต่างประเทศที่เรานิยมนั้นคือ ปรงญี่ปุ่น เพราะมีความสวยงามที่สุดในบรรดาปรงต่างประเทศเลยก็ว่าได้ จึงทำให้พืชชนิดนี้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่ดีอีกประเภทหนึ่ง ทำให้ร้านต้นไม้ นำพืชชนิดนี้ไปขายมากพอสมควร

มาถึงหนึ่งในพืชการเกษตรอีกชนิดหนึ่งที่เราอยากจะบอกให้ท่านได้รับรู้ เรียกได้ว่าเป้นพืชเศรษฐกิจของคนไทยโดยเฉพาะชาวใต้เลยก็ว่าได้ มันคือต้นปาล์ม ต้นไม้ที่มีหนามปาล์มคอยทิ่มแทง และมีลูกและผลผลิตที่มีราคาสูงมากๆ บางช่วงเวลาราคาปาลืมของไทยเคยสุงถึงกิโลละ 10 บาทเลยทีเดียว 

และต้นปาล์มนี้ได้นำไปแปรรูปเป็นหลายอย่าง หลักๆเลยคือน้ำมัน ที่เราใช้กันทุกวัน จึงทำให้ชาวสวนเกษตรกรเลือกที่จะปลูกปาลืมกันเป็นจำนวนมาก แต่ต้องยอมรับว่าต้นปาล์มนี้ต้องใส่ใจและได้รับการดูแลกันพอสมควร ต้องมีการให้น้ำ ใส่ปุ๋ย และทำตามขั้นตอนต่างๆ หากต้องการจะได้รับลูกหรือผลผลิตเยอะๆท่านต้องทำตามขั้นตอนให้ถูกต้องด้วย 

และเป็นพืชที่มีลักษณะคล้ายๆกับต้นปรง โดยข้อมูลต้นปาลืมคือ เป้นต้นที่มีหนาม มีใบเรียว ยาว ผลผลิตจะอยู่เป็นทลายอยู่บริเวณโคนก้าน โดยก้านของมันมีขนาดใหญ่ และล้ำต้นก็ขนาดใหญ่มากๆด้วยเช่นกัน และต้องใช้เวลาประมาณ 3 ปีจึงจะสามารถตัดผลผลิตและนำลูกปาล์มไปขายได้ 

และอายุไขการทำธุรกิจของต้นปาล์มหนึ่งต้น สามารถตัดได้ยาวนานถึง 20 ปีเลยทีเดียว และปัจจุบันหลายประเทศนำต้นปาล์มไปปลูกกันเป็นจำนวนมาก เพราะผลตอบรับมันออกมาดีแน่นอน