ชื่อสามัญ Orchid
ชื่อวิทยาศาสตร์ –
วงค์ ORCHIDACEAE
ลักษณะทั่วไปของกล้วยไม้
กล้วยไม้เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว มีลำต้นเป้นข้อปล้อง ผิวเปลือกเรียบบางสีเขียว การเจริญของลำต้นโดยการแยกหน่อออกจากข้อ กล้วยไม้บางชนิดเรียกส่วนของข้อและปล้องว่าลำลูกกล้วยบางชนิดมีระบบรากแบบกึ่งอากาศใบเรียงตัวสลับกันตามข้อลักษณะใบ
เรียบสีเขียว ขนาดของใบและลักษณะอื่น ๆ แตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์ ดอกออกเป็นช่อตามส่วนยอดหรือข้อของลำต้น ช่อหนึ่งมีดอกประมาณ 10-30 ดอก ลักษณะดอกมีเดือยอยู่ตรงกลาง กลีบดอกแยกออกเป็นส่วน ๆ เรียงตัวกันรอบเกสร มีกลีบดอกประมาณ 5 กลีบ ซึ่งมีสีสรรและขนาดของดอกแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์
การเป็นมงคลของกล้วยไม้
คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นกล้วยไม้ไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความประทับใจแก่บุคคลทั่วไปเพราะลักษณะดอกของ
กล้วยไม้แสดงถึงความงดงาม ประทับใจยิ่งแก่บุคคลทั่วไปที่ได้พบเห็น นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่ายังช่วยทำให้คนในบ้าน
เป็นผู้มีจริยธรรม เพราะการดูแลกล้วยไม้ให้เกิดดอกที่สวยงาม ต้องเป็นผู้มีจิตใจ และอุปนิสัยเยือกเย็น มีความปราณีตและละ
เอียดละออ ยังมีกล้วยไม้บางชนิดได้รับการยกย่องให้เป็นราชินีกล้วยไม้ ได้แก่ กล้วยไม้ชื่อ คัทลียา (Catteya) ทั้งนี้เพราะมีความสวยงามมากเป็นที่ประทับใจแก่สังคมทั่วไป
สกุลกล้วยไม้ที่ปลูกเป็นไม้มงคล
1. แพฟิโอเพดิลั่ม : Paphiopedilum Slipper orchid
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Paphiopedilum sp.
วงค์ : ORCHIDACEAE
ชื่ออื่น : รองเท้านารี
2. คัทลียา : Cattleya
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cattleya hybrids.
วงค์ : ORCHIDACEAE
ชื่ออื่น : ราชินีกล้วยไม้
3. แวนด้า : Vanda
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Vanda Teres.
วงค์ : ORCHIDACEAE
ชื่ออื่น : ฟ้ามุ้ย เอื้องโมกข์
4. เด็นโดรเบี้ยม : Dendrobium
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dendrobium.
วงค์ : ORCHIDACEAE
ชื่ออื่น : หวาย
5. แอริดิส : Aerides
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aerides
วงค์ : ORCHIDACEAE
ชื่ออื่น :เอื้องกุหลาบ หนวดพราหมณ์
6. รินคอสไตลิส : Rhynchostylis
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Rhynchostylis sp.
วงค์ : ORCHIDACEAE
ชื่ออื่น : ช้างกระ ช้างเผือก
7.. แวนด๊อพซีส : Vandopsis
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Vandopsis gigantea.
วงค์ : ORCHIDACEAE
ชื่ออื่น : พญาฉัททันต์ เขาพระวิหาร ลานนาไทย
8.. แอสโคเซ็นตรั้ม : Ascocentrum
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ascocentrum sp.
วงค์ : ORCHIDACEAE
ชื่ออื่น : เข็มแดง เข็มม่วง
9.. ดอไรทิส : Doritis
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Doritis pulcherrima.
วงค์ : ORCHIDACEAE
ชื่ออื่น : กล้วยไม้ม้าวิ่ง แดงอุบล
10.. ไตรโคกล๊อตติส : Trichoglottis
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Trichoglottis fuscearta
วงค์ : ORCHIDACEAE
ชื่ออื่น : เสือโคร่ง
ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัยควรปลูกต้นไม้ไว้ทางทิศตะวันออกผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้
เอาประโยชน์ ทั่วไปทาดอกให้ปลูกในวันพุธ ถ้าให้เป็นสิริมงคลยิ่งขึ้นผู้ปลูกควรเป็นผู้ใหญ่ที่ควรเคารพนับถือ และประกอบคุณงามความดีก็จะเป็นสิริมงคลมากยิ่งขึ้น
การปลูกกล้วยไม้ วิธีที่นิยมปลูกมี 2 วิธี คือ
1. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายในและภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางทรงแบนแบบแหวนห้อยได้ จะเป็นกระถางไม้
หรือกระถางดินเผาก็ได้แต่ต้องเป็นชนิดที่โปร่งระบายน้ำได้ดีเพราะกล้วยไม้ใช้รากในการหายใจด้วยและยึดเกาะทรงต้นให้แข็ง
แรงด้วยขนาดกระถางปลูก6-12นิ้วถ้าใช้กระถางทรงสูงก็ได้ต้องใช้ไม้หลักที่หุ้มด้วยกาบมะพร้าวปักไว้ตรงกลางกระถางเพื่อให้
รากยึดเกาะสำหรับวัสดุที่ใช้ปลูกนั้นได้แก่ดินผสมพิเศษหรือกาบมะพร้าวซึ่งลักษณะการปลูกขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์ถ้าใช้เพื่อประดาบ
ภายในอาคาร ควรให้ได้รับแสงบ้างอย่างน้อย 3 – 5 วันต่อครั้ง
2.การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวนนิยมใช้ไม้หลักที่หุ้มด้วยกาบมะพร้าวเพื่อให้รากยึกเกาะจะปลูกในแปลงปลูก
บริเวณบ้าน หรือทำเป็นสวนขนาดใหญ่ก็ได้ส่วนการปลูกแบบให้เกาะกับต้นไม้อื่นเช่นต้นไม้ยืนต้นวิธีปลูกโดยนำเอากาบมะพร้าว
มาห่อหุ้มส่วนรากหรือโคนของกล้วยไม้เอาไว้ เพื่อให้ยึดติดกับต้นไม้ยืนต้นนั้นไว้ การปลูกแบบนี้ขึ้นอยู่กับชนิดพันธุ์ด้วย
การดูแลรักษากล้วยไม้ |
แสง ต้องการแสงแดดรำไร หรือปานกลาง
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 3 – 5 วัน / ครั้ง
ดิน ดินผสมพิเศษ กาบมะพร้าว
ปุ๋ย ปุ๋ยอินทรีย์ผสมพิเศษ หรือปุ๋ยเคมี สูตร 10-10-10 5-10-5 อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก ละลายน้ำฉีดพ่นตาม ใบ ควรให้ 1 – 2 เดือน / ครั้ง
การขยายพันธุ์ การแยกหน่อ การปักชำ การเพาะเนื้อเยื่อ
โรค โรคเน่าดำ (Black not disease)
อาการ ใบและลำต้นมีรอยเป็นสีดำ ต่อมาทำให้ใบเหี่ยวหลุดร่วง
การป้องกัน – อย่าให้น้ำแฉะเกินไป
– รักษาความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องมือปลูก
การรักษา ตัดหรือทำลายส่วนที่เป็นโรคทิ้ง หรือใช้ 8 ไฮดร๊อคซี่ควิโนลิ่น ซัลเฟต อัตราส่วนและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก
โรคเหี่ยว Fusarium wilt
อาการ ใบและลำต้น มีสีเหลืองซีด แห้ง บิดงอ
การป้องกัน – อย่าให้น้ำแฉะหรือมากเกินไป
– รักษาความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องปลูก
การรักษา นำต้นที่เป็นโรคเผาทำลาย
ศัตรู เพลี้ยไฟ
อาการ กลีบดอกแห้งและร่วง
การป้องกัน ใช้ยาคลอเดน 75% อัตราและคำแนะนำการใช้ระบุไว้ตามฉลากฉีดพ่น บริเวณใบและดอกขณะดอกยังตูม
การกำจัด ใช้ยานิโคตินซัลเฟต 40% อัตราและคำแนะนำการใช้ระบุไว้ตามฉลาก