สอบถามเพิ่มเติมที่ 0xx-xxx-xxxx

บานบุรีเหลือง


ชื่อวิทยาศาสร์
       Allamanda cathartica. Linn.

ตระกูล                APOCYNACEAE

ชื่อสามัญ             Golden trumpet , Allamanda.

ลักษณะทั่วไป

ต้น      บานบุรีเหลืองเป็นไม้เลื้อยที่มีการผลัดใบโดยธรรมชาติ ต้นของบานบุรีจะเลื้อยพาดไปตามรั้ว หลัก หรือต้นไม้อื่น
               หากไม่มีการตัดแต่งทรงพุ่ม เถาบานบุรีเมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาล ส่วนบริเวณยอดเถาจะเป็นสีเขียว และจะมี
               ยางสีขาวขุ่นอยู่ในทุกส่วนของต้นบานบุรี ไม่ว่าจะเป็นส่วนของเถา หรือส่วนของใบก็ตาม

 ใบ       ใบจะแตกออกบริเวณข้อของลำต้นหรือขอของเพา ข้อหนึ่ง ๆ จะมีใบออกประมาณ 3-6 ใบ และใบจะออก
               ตรงข้ามกัน ตัวใบสีเขียวเข้ม ผิวใบมัน ปลายใบแหลม ก้านใบสั้น

ดอก     
บานบุรีเหลืองจะออกดอกตรงส่วนยอด ดอกเป็นรูปแตร มีก้านดอกสั้นและจะมีกลีบเลี้ยงเป็นริ้วสีเขียวติดอยู่โคน
               ดอก ดอกจะเป็นสีเหลืองมีกลีบดอก 5 กลีบ

ฤดูกาลออกดอก       

ออกดอกตลอดปี

การปลุก

บานบุรีเหลืองมีวิธีการปลูกโดยการปักชำกิ่ง โดยมีวิธีการและขั้นตอนดังนี้คือ ให้ตัดกิ่งบานบุรีบริเวณใต้ข้อประมาณ 2 เซน
ติเมตร และให้กิ่งปักชำมีความยาวประมาณ 1 ฟุต แล้วปักในกะบะทรายหรือถุงปักชำ รดน้ำพอชุ่มวางไว้ในที่ร่มหรือ
วางไว้ภายในเรือนเพาะชำประมาณ 3 สัปดาห์ ก็จะมีรากงอกออกมาแล้วจึงนำไปปลูกในหลุมปลูก หรือจะปลูกใส่กระ
ถางก็ได้ตามต้องการ การปลูกหากปักชำกิ่งในถุงก็ให้ใช้มีดกรีดถุงให้ขาด แล้วเอาถุงออกยกดินพร้อมกิ่งปักชำลงใน
หลุมหรือกระถางได้เลยกลบดินพอแน่นรดน้ำให้ชุ่มแต่ถ้าหากว่าปักชำกิ่งในกะบะปักชำก็ให้ใช้ช้อนปลูกตักดินที่ปักชำ
ติดขึ้นมาด้วยแล้วนำลงหลุม หรือกระถางปลูก กลบดินพอแน่น รดน้ำให้ชุ่ม ดินที่ใช้ปลูกบานบุรีควรเป็นดินร่วน หรือ
ดินร่วนปนทรายและควรจัดวางกระถางต้นไม้ให้ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอเนื่องจากบานบุรีเป็นไม้ที่ชอบแสงแดด
หรือชอบอยู่กลางแจ้ง จึงจะให้ดอกที่สวยงาม

การดูแลรักษา

 แสง        เนื่องจากบานบุรีเป็นไม้กลางแจ้ง ที่ชอบแสงแดดมากพอสมควร จึงจำเป็นที่จะต้องจัดกระถางบานบุร ีไว้
                 ในที่ที่มีแสงแดด หรือควรปลูกบานบุรีลงแปลงบริเวณที่ต้นไม้สามารถได้รับแสงอย่างเต็มที่ เพราะหากต้น
                 ไม้ไม่ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ ก็อาจจะไม่ให้ดอกหรือให้ดอกที่ไม่สมบูรณ์และไม่สวย บานบุรีจะให้ดอก
                 ที่สวยงาม เมื่ออยู่กลางแจ้ง

 น้ำ        
 ถึงแม้นว่าบานบุรีจะเป็นไม้กลางแจ้ง แต่ก็มิได้หมายความว่าบานบุรีจะไม่ต้องการน้ำ บานบุรีมีความต้อง
                 กานน้ำปานกลาง ฉะนั้นหลังปลูกบานบุรีลงดินแล้ว ควรรดน้ำในตอนเช้าวันละครั้ง และควรรดน้ำในปริ
                 มาณที่พอเหมาะ ไม่ควรให้ดินแฉะเพราะอาจทำให้รากเน่าและตายได้

 ดิน        บานบุรีเป็นไม้ที่ค่อนข้างขึ้นง่าย ไม่เลือดดินปลูก แต่ถ้าปลูกในดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ก็จะยิ่งเจริญ
                 งอกงานได้ดี

โรคและแมลง

โรคที่มักจะเกิดกับบานบุรีได้แก่ โรคโคนเน่า ส่วนแมลงที่พบได้แก่ เพลี้ยอ่อน และไร

การป้องกันกำจัด

โรคโคนเน่ามีวิธีป้องกันกำจัดโดยการลดความชื้น หรือลดประมาณน้ำที่ใช้รดลง และไม่ควรรดน้ำในช่วงเย็นหรือ
ถ้าเป็นมากให้ใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อรา ให้ตามอัตราส่วนที่ระบุในเอกสารกำดับยา สำหรับแปลงพวกเพลี้ยอ่อน
เพลี้ยไฟ ให้ใช้ยามาลาไธออน ฉีดพ่น อัตราส่วนการใช้ให้ดูตามฉลากที่ระบุในเอกสารกำดับยาเช่นกัน

การขยายพันธุ์  

บานบุรีมีวิธีการขยายพันธุ์ได้ 2 วิธี คือโดยการปักชำกิ่งและการตอนกิ่ง


 ปุ๋ย       
ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก รองก้นหลุมตอนปลูก เมื่อต้นโนแล้วให้พรวนดินบริเวณโคนต้น แล้วใส่ปุ๋ยหมักปี
                 ละ 2 ครั้ง