สอบถามเพิ่มเติมที่ 0xx-xxx-xxxx
nokatra

นกกระทา

ชื่อสามัญ Aluminum plant, Watermelon pilea ชื่อวิทยาศาสตร์ Pilea cadierei ตระกูล URTICACEAE ถิ่นกำเนิด เวียตนาม ลักษณะทั่วไป นกกระทาเป็นไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่มีสีสันและลวดลายสะดุดตามีใบและกิ่งมากมาย ใบมีลักษณะกลมรีสีเขียวเข้ม ด้านบนใบจะมีจุดสีเงินแต้มประอยู่ข้างเส้นใบ ส่วนด้านล่างจะมีสีเขียวอ่อนจางๆ นกกระทาถือว่า เป็นพืชคลุมดินที่เราสามารถนำมาปลูกประดับภายในห้องหรือตัวอาคารได้และเป็นพืชทนอยู่ในที่มืดครื้ม ได้พอสมควร นกกระทานี้เมื่อเรานำไปปลูกเป็นไม้ประดับในกระถางมันจะเจริญเติบโตเร็วมากเราต้องหมั่นเด็ดกิ่งอ่อนและกิ่งที่ไม้ได้รูปทรงออกไปบ้างเพื่อที่มันจะได้แตกกิ่งก้านออกมาทำให้เกิดเป็นทรงพุ่มที่สวยงามน่าชม การดูแลรักษา แสง                              ชอบแสงแต่ไม่ต้องการโดยตรงควรมีวัสดุพรางแสงให้ อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18- 25 องศาเซลเซียส ความชื้น                      ต้องการความชื้นสูงมาก น้ำ                                ไม่ต้องให้น้ำมาก แต่ควรให้สม่ำเสมออย่าให้แห้งหรือแฉะ ดินปลูก                        ดินร่วน 2 ส่วน ใบไม้ผุ 1 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วน                                                                       ปุ๋ย                                ควรใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักละลายน้ำรดอย่างเจือจางประมาณ 2 ครั้ง / เดือน กระถาง                         ควรเปลี่ยนกระถางปีละ 1-2 ครั้ง การขยายพันธุ์               ปักชำ โรคและแมลง                ไม่ค่อยพบโรคที่เป็นสัตรูเท่าไหร่ ส่วนมากจะพบเพลี้ยแป้งและเพลี้ยอ่อน การป้องกันกำจัด          ใช้ยามาลาไธออน

Read More »
kafe

กาแฟ

ชื่อสามัญ Arabian coffee ชื่อวิทยาศาสตร์ Coffee arabica ตระกูล RUBIACEAE ถิ่นกำเนิด เอธิโอเปีย ลักษณะทั่วไป กาแฟเป็นพืชที่เราสามารถนำเข้ามาปลูกภายในอาคารบ้านเรือนได้เพราะเมื่อเรานำเข้ามาปลูกในห้องแล้วมันจะไม่แตกดอก ออกผล แต่จะคงลักษณะคือใบมีสีเขียวเข้มเป็นมันอยู่ตลอดเวลา กาแฟเป็นไม้ที่เจริญเติบโตได้รวดเร็วมาก เมื่อนำมาปลูกในกระถางมันจะเจริญเติบโตได้ประมาณ 1-2 เมตร กาแฟชอบห้องที่อบอุ่นและทนอยู่ในที่ร่มเย็นได้ไม่กี่วัน ถ้าปลูปในห้องหับหรือในอาคารควรปลูกใกล้หน้าต่างหรือที่ๆ แสงแดดส่งถึงหรือจะใช้แสงจากหลอดไฟฟ้าแทนก็ได้ การดูแลรักษา แสง                              ชอบแสงสว่าง ควรให้ได้รับแสงประมาณ 4-6 ช.ม. / วัน อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18- 22 องศาเซลเซียส ความชื้น                      ต้องการความชื้นสูงมาก ควรฉีดพ่นละอองน้ำให้บ่อย ควรให้น้ำอาทิตย์ละครั้ง น้ำ                                ควรให้น้ำอาทิตย์ละครั้ง ดินปลูก                        ดินร่วน 2 ส่วน ใบไม้ผุ 1 ส่วน ทราย 1 ส่วน ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วน                                                                       ปุ๋ย                                ควรใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักละลายน้ำรดอย่างเจือจางทุกๆ 15 วัน กระถาง                         ควรเปลี่ยนกระถางทุกปี การขยายพันธุ์               เพาะเมล็ด โรคและแมลง                ไม่ค่อยพบโรครบกวน

Read More »
firnkaloung

เฟิร์นข้าหลวงหรือข้าหลวงหลังลาย

ชื่อสามัญ Bird’s nest fern ชื่อวิทยาศาสตร์ Asplenium nidus ตระกูล POLYPODIACEAE ถิ่นกำเนิด เกิดอยู่ทั่วไปในแถบที่มีอากาศร้อน และอบอุ่น เช่น เอเซีย ออสเตรเลีย ลักษณะทั่วไป เฟิร์นข้าหลวงชนิดนี้ ฝรั่งแรียกว่า “Bird’s nest fern” เฟิร์นรังนกชอบอาศัยอยู่ตามคาคบ ไม้ใหญ่ในเขต อบอุ่นที่มีความชื้นสูงถือว่าเป็นลักษณะของกาฝากใบของเฟิร์นข้าหลวง จะมีสีเขียวอ่อน ขอบใบหยักเป็นคลื่น ก้านใบจะมีสีน้ำตาลเข้ม การเรียงตัวของใบจะเรียงตัวแบบเกลียวคล้ายดอกกุหลาบ ใบที่เกิดใหม่จะอ่อนและเปราะหักได้ง่ายแต่พอเจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะมีความเหนียวและหนามาก เมื่อนำมาปลูกภายในอาคารบ้าน เรือนจะต้องคอยทำความสะอาดเช็ดถูสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองออกจากใบบ้างเดือนละครั้งก็ยังดี เฟิร์นข้าหลวงเป็นพืชที่ชอบความชื้นสูงถ้าอากาศแห้งแล้งควรฉีดสเปรย์ให้ใบของมันอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพราะการฉีดละอองน้ำจะทำให้ใบของมันสดชื่นอยู่ตลอด เฟิร์นที่นิยมปลูก 1.เฟิร์นเขากวาง 2.เฟิร์นตีนตะขาบ การดูแลรักษา แสง                              ชอบอยู่ในร่มและแดดส่องถึงได้บ้างเล็กน้อย อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18- 24 องศาเซลเซียส ความชื้น                      ต้องการความชื้นสูง น้ำ                                ในระยะแรกของการเจริญเติบโตต้องให้น้ำอย่างเต็มที่ และลดปริมาณลงในฤดูหนาว ปกติก็ควรจะให้ 2 วันต่อครั้ง ดินปลูก                        ดินร่วน 1 ส่วน ใบไม้ผุ 1 ส่วน ทรายละเอียด

Read More »
firnkrowgoung

เฟิร์นเขากวางหรือชายผ้าสีดา

ชื่อสามัญ Elk’s horn fern ชื่อวิทยาศาสตร์ Platycerium bifurcatum ตระกูล POLYPODIACEAE ถิ่นกำเนิด เขตอบอุ่นของออสเตรเลีย ปาปัวนิวกีนี ลักษณะทั่วไป เฟิร์นเขากวาง หรือชายผ้าสีดา นี้เป็นเฟิร์นที่มีความสวยงามแปลกตามาก เพราะรูปร่างลักษณะของใบที่เหมือนกับเขากวางใบของเฟิร์น์ชนิดนี้มีสีเขียวเป็นมันเลื่อม ในธรรมชาติพืชชนิดนี้เป็นกาฝากชอบอาศัยอยู่ตามคบไม้ใหญ่เฟิร์นชนิดนี้ไม่เหมาะสมเลยที่จะนำมาปลูกเลี้ยงในกระถางตั้งพื้น ควรปลูกเลี้ยงในกระถางแขวน ให้ใบห้อยย้อยลงมาจะสวยกว่า หรืออาจจะผูกติดกับท่อนไม้ผุๆ สักท่อนแล้วแขวนเอาไว้ก็ได้ ชายผ้าสีดาหรือเฟิร์นเขากวางนี้เหมาะ ที่จะนำมาประดับประดาในห้องนั่นเล่น หรือตามระเบียงบ้านก็ได้ เฟิร์นชนิดนี้ทนทานอยู่ในห้องที่แห้งแล้งได้ ถ้าการให้ใบสวยงามต้องหมั่นฉีดพ่นน้ำให้อยู่บ่อยๆ เฟิร์นที่นิยมปลูก 1.เฟิร์นตีนตะขาบ 2.เฟิร์นข้าหลวง การดูแลรักษ แสง                              อย่าให้ถูกแสงแดดจัดๆ อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18- 24 องศาเซลเซียส ความชื้น                      ต้องการความชื้นสูง ควรฉีดพ่นน้ำให้ใบ 2-3 วัน/ครั้ง น้ำ                                การให้น้ำเฟิร์นชนิดนี้จะใช้วิธียกกระถางหรือท่อนไม้ที่ใช้ยึดต้นเฟิร์นจุ่มลงไปในน้ำแล้วแช่เอาไว้สัก ประมาณ 3 นาที ดินปลูก                        เฟิร์นชนิดนี้ไม่นิยมใช้ดินปลูก แต่จะใช้เศษไม้ที่ผุๆ พังๆอยู่ตามหนองน้ำหรืออาจใช้ถ่านหุงข้าวผสมกับเศษอิฐหักเพื่อให้มีความสามารถอุ้มน้ำได้ดี และน้ำไม่ขัง ปุ๋ย                                ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักละลายน้ำราดรดไปที่กระถางหรือท่อนไม้หลังจากการให้น้ำ กระถาง                         ควรเปลี่ยนกระถางปีละครั้งก็ได้ การขยายพันธุ์               แยกลำต้นอ่อนที่แตกออกมาจากส่วนของราก และเพาะจากสปอร์ โรคและแมลง                ไม่ค่อยพบโรค ส่วนมากจะพบแมลงพวกเพลี้ย

Read More »
sonkrimas

สนคริสต์มาส

ชื่อสามัญ Buddhist pine, japanese yew ชื่อวิทยาศาสตร์ Podocarpus macrophyllus ตระกูล PODOCARPACEAE ถิ่นกำเนิด จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ลักษณะทั่วไป สนคริสต์มาสนี้มีใบเรียวเล็กเป็นมันเลื่อม ที่ปลายในจะมีสีเขียวอมเหลืองนิดๆ การที่มีกิ่งก้านเล็กเลยทำให้สนคริสต์มาสดูบอบบางไม่แข็งแรง เมื่อนำเข้ามาปลูกในร่มจะปลูกได้สูงเต็มที่ประมาณ 2 เมตรเท่านั้นการปลูก ประดับนั้น ถ้าต้องการให้มันแตกพุ่มควรหมั่นตัดยอดบ่อยๆ สนคริสต์มาสชอบห้องที่มีอากาศอบอุ่นและมีความชื้นสูง ในห้าร้อนควรฉีดพ่นละอองน้ำให้มันทุกๆ วัน ต้นสนที่นิยมปลูก 1.สนฉัตร การดูแลรักษา แสง                              ชอบแสง แต่ไม่ชอบแสงแดดโดยตรง อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18- 22 องศาเซลเซียส ความชื้น                      ต้องการความชื้นสูง น้ำ                                ให้น้ำอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง หรืออาจตรวจดูหน้าดินว่าแห้งพอที่จะให้น้ำได้หรือยัง ดินปลูก                        ดินร่วน 2 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน เศษใบไม้ผุๆ 1 ส่วน ปุ๋ย                                ให้ปุ๋ยน้ำทุกๆ เดือน โดยให้ในปริมาณที่เจือจาง กระถาง                         ควรเปลี่ยนกระถางทุกปี

Read More »
paperomea

เป็ปเปอร์โรเมีย

ชื่อสามัญ Pepperomia emerald ripple ชื่อวิทยาศาสตร์ Pepperomis sp. ตระกูล PIPERACEAE ถิ่นกำเนิด อเมริกาใต้ ลักษณะทั่วไป เป็ปเปอร์โรเมีย เป็นพืชที่มีมากมายหลายชนิด ส่วนใหญ่เป็นไม้ประดับในร่ม เป็นพันธุ์ไม้ที่มีขนาดเล็กขึ้นหนาแน่นเป็นกอ มีใบค่อยข้างหนาและเป็นมันเงา มีสีต่างๆ กัน ส่วนใหญ่เป็นสีเรียบๆ ไม่ค่อยฉูดฉาดรูปใบส่วนมากไม่มีแฉกหรือรอยเว้าขอบใบเรียบดอกมีลักษณะคล้ายดอกพริกเป็ปเปอร์โรเมียเป็นไม้ที่ชอบความชุ่มชื้นและ แสงสว่าง ถ้าปลูกประดับไว้ในมุมที่แสงสว่างไม่พอจะทำให้ใบมีสีซีดไม่สวย การดูแลรักษา แสง                              ไม่ชอบแสงแดดโดยตรง อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18- 24 องศาเซลเซียส ความชื้น                      ต้องการความชื้นสูง ถ้าปลูกอยู่ในห้องที่บรรยากาศแห้งแล้ง ต้องหมั่นฉีดพ่นละอองน้ำให้บ่อยๆ น้ำ                                ต้องการน้ำน้อย แต่ต้องคอยตรวจเช็คดินอย่าให้ดินแห้ง ดินปลูก                        ดินร่วน 2 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน เศษใบไม้ผุๆ 1 ส่วน ปุ๋ย                                ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักละลายน้ำเจือจางรดเดือนละครั้ง กระถาง                         เปลี่ยนกระถางเฉพาะต้นที่ยังเล็กอยู่เท่านั้น การขยายพันธุ์               ปักชำกิ่ง ใบ ลำต้น แยกกอ โรคและแมลง                ไม่ค่อยพบโรค ส่วนมากที่พบได้แก่

Read More »
touyhrom

เตยหอม

ชื่อสามัญ Screw pine ชื่อวิทยาศาสตร์ Pandanus Odorus Ridl ตระกูล PANDANACEAE ถิ่นกำเนิด โพลินีเซีย ลักษณะทั่วไป เตยหอมนี้เป็นที่รู้จักกันดีของคนไทย เพราะนำมาใช้ประโยชน์สารพัดอย่าง ส่วนมากแล้วเตยหอมจะปลูกอยู่ภายนอกบริเวณอาคาร เพราะเป็นพืชที่ชอบแสงและชอบน้ำมาก และเมื่อปลูกไปสักระยะหนึ่ง ตามลำต้นของเตยหอมก็จะเกิดรากอากาศขึ้นมาเพื่อดูดความชื้นจากอากาศ ในบ้านเรายังไม่ค่อยมีใครนำมาประดับภายในบ้านมากนัก ถ้านำเตยหอมมาปลูกประดับภายในบ้าน ควรจะให้ได้ดับแสงสว่างอย่างเพียงพอ แม้จะไม่ได้รับแสงแดดก็ใช้แสงจากไฟฟ้าแทนได้ การดูแลรักษา แสง                              ต้องการแสงมาก อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18- 22 องศาเซลเซียส ความชื้น                      ต้องการความชื้นในอากาศมาก ควรจะมีถาดใส่น้ำตั้งไว้ใกล้ๆ เสมอ น้ำ                                สามารถรดน้ำได้ตามสบาย ดินปลูก                        ดินร่วน 1 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน เศษใบไม้ผุๆ 1 ส่วน ปุ๋ย                                ให้ปุ๋ยการให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักละลายน้ำรดเดือนละครั้ง กระถาง                         เปลี่ยนกระถางทุกๆ ปี การขยายพันธุ์               ตัดแยกหน่อที่แตกออกมาจากลำต้น โรคและแมลง                ทนต่อโรคและแมลง

Read More »
palmkonok

ปาล์มขนนก

ชื่อสามัญ Canary islands date palm ชื่อวิทยาศาสตร์ Phoenix canareinsis ตระกูล PALMAE ถิ่นกำเนิด หมู่เกาะคานารี่ ลักษณะทั่วไป ปาล์มขนนกนี้เป็นปาล์มใบแหลมเล็กเป็นที่รู้จัก และนิยมปลูกกันมานานแล้วในประเทศไทย เพราะมีรูปร่างทรวดทรงเหมาะที่จะปลูกประดับไว้ตามมุมห้องหรือข้างโต๊ะทำงานในออฟฟิศได้อย่างสบาย เป็นพืชที่เจริญเติบ โตช้าและทนต่อความร่มเย็นภายในห้องหรืออาคารสถานที่ได้เป็นอย่างดี การปลูกเลี้ยงจะต้องให้ถูกสายลม และแสงสว่างบ้าง แต่อย่าให้ถูกแสงแดดโดยตรง การดูแลรักษา แสง                              ชอบแสงสว่างมาก อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18- 22 องศาเซลเซียส ความชื้น                      ต้องการความชื้นในอากาศบ้าง น้ำ                                ควรให้น้ำอาทิตย์ละครั้ง การให้น้ำอย่าให้ถึงกับแฉะ ดินปลูก                        ดินร่วนผสมกับดินเหนียว 2 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน ทรายหยาบ 1/2 ส่วน  เศษใบไม้ผุๆ 1 ส่วน ปุ๋ย                                ให้ปุ๋ยการให้ปุ๋ยไม่ต้องบ่อยนัก 2-3 เดือนให้สักครั้งก็ได้ กระถาง                         เปลี่ยนกระถางทุกปีจนกว่าจะโตจนถึงขนาดย้ายลงปลูกในดิน การขยายพันธุ์               เพาะเมล็ด โรคและแมลง                เพลี้ยหอย ส่วนโรคไม่ค่อยพบ การป้องกันกำจัด          ใช้ยาไซกอน (cygon) อัตรา 20 กรัม

Read More »
palmpai

ปาล์มไผ่

ชื่อสามัญ Parlor palm ชื่อวิทยาศาสตร์ Chamaedorea elegans ตระกูล PALMAE ถิ่นกำเนิด เม็กซิโก กัวเตมาลา ลักษณะทั่วไป ปาล์มไผ่นี้เป็นปาล์มที่มีขนาดเล็กเจริญเติบโตช้านิยมปลูกประดับไว้ตามริมหน้าต่างข้างประตูเมื่อนำมาปลูกไว้ในอาคารบ้านเรือนจะมีความสูงประมาณ1.20 – 1.50 ม.ใบและก้านใบมีสีเขียวโดยเฉพาะใบมีลักษณะอ่อนช้อยคล้ายใบไผ่ยาวประมาณ 6 นิ้วและกว้างประมาณ 1 นิ้ว ปาล์มไผ่นี้สามารถประดับไว้ในที่ทึบแสง เป็นเวลานานๆและยังสามารถ นำเอาก้านและใบของมันมาใช้ประโยชน์ในการจัดดอกไม้และ ตกแต่งห้องหับได้อีกด้วย การดูแลรักษา แสง                             ต้องการแสงสว่าง แต่ไม่ต้องการแสงแดดโดยตรง อุณหภูมิ                      ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18- 23 องศาเซลเซียส ความชื้น                      ต้องการความชื้นในอากาศพอสมควร ถ้าอากาศแห้งแล้งควรฉีดพ่นละอองน้ำให้ 2-3 วัน/ครั้ง น้ำ                                ต้องการน้ำมากในระยะที่กำลังเจริญเติบโต ถ้าปลูกในห้องหรือตัวอาคารควรรดน้ำสัปดาห์ละครั้ง ดินปลูก                        ดินร่วน 2 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน เศษใบไม้ผุๆ 1 ส่วน ปุ๋ย                                ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักละลายน้ำรดเดือนละ ครั้ง กระถาง                         ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อยอาจเปลี่ยน 2 ปี/ครั้งก็ได้

Read More »
palmpatyolob

ปาล์มพัดยุโรป

ชื่อสามัญ European fan palm ชื่อวิทยาศาสตร์ Chamaerops humilis ตระกูล PALMAE ถิ่นกำเนิด แถบทะเลเมดิเตอเรเนียน ลักษณะทั่วไป ปาล์มพัดยุโรปนี้เป็นปาล์มที่มีขนาดกระทัดรัดอีกพันธุ์หนึ่งที่เหมาะแก่การนำมาประดับไว้ในห้องหับ หรือตามมุมต่างๆ ของอาคาร ปกติปาล์มพัดนี้จะสูงประมาณ 1 เมตร แต่ถ้าได้รับการดูแลรักษาและเอาใจ ใส่อย่างดีอาจสูงถึง 2 เมตรก็ได้ ใบของปาล์มพัดจะสีเขียวอมเทานิดๆ ใบจะแผ่ ออกจากก้านใบคล้ายกับพัด ยาวประมาณ 60ซ.ม. ในฤดูร้อนควรนำไป ตั้งไว้ในที่ๆ อากาศถ่ายเทสะดวกและแสงแดดส่องถึงบ้าง การดูแลรักษา แสง                              ต้องการแสงแดดมากพอสมควร อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18- 24 องศาเซลเซียส ความชื้น                      ต้องการความชื้นบ้างเล็กน้อย น้ำ                                ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมออย่าให้ดินแห้งเป็นอันขาด ดินปลูก                        ดินร่วน 2 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 1 ส่วน ทราย 1 ส่วน เศษใบไม้ผุๆ 1 ส่วน ปุ๋ย                                ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักละลายน้ำรดเดือนละ ครั้ง กระถาง                         เปลี่ยนกระถางปีละครั้ง การขยายพันธุ์               ใช้เมล็ด

Read More »