สอบถามเพิ่มเติมที่ 0xx-xxx-xxxx
pelodendron

ฟิโลเดนดรอน

ชื่อสามัญ Philodendron ชื่อวิทยาศาสตร์ Philodendron Sp. ตระกูล ARACEAE ถิ่นกำเนิด ประเทศบราซิล อเมริกากลาง ลักษณะทั่วไป ฟิโลเดนดรอน ในธรรมชาติเป็นพันธุ์ไม้ใบใหญ่สีเขียวสดเป็นมัน เลื้อยพันต้นไม้ใหญ่ๆ ในป่าเป็นไม้ในร่มที่โดนแดดจัดไม่ได้ เมื่อนำมาเลี้ยงจะพบว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่แข็งแรง ปลูกเลี้ยงได้ง่ายไม่ค่อยจะมีปัญหา มากนัก ด้วยลักษณะที่คล้ายคลึงกันมากกับพวกพลูแฉก และพลูด่างจึงทำให้เกิดความสับสนและแยกไม่ออกใน บางครั้ง การปลูกฟิโลเดนดรอน ควรใช้กาบมะพร้าวหุ้มกับไม้ปักไว้ในกระถาง และพรมน้ำให้ชื้น เพื่อให้มันได้ยึดเกาะ และถ้าต้องการให้ฟิโลแดนดรอนแตกกิ่งก้านสาขามากๆ ก็ควรหมั่นเด็ดยอดตั้งแต่ ตอนที่มันยังเล็กๆ อยู่ การดูแลรักษา แสง                              ไม่ชอบแสงโดยตรง อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18 – 24 องศาเซลเซียส ความชื้น                       ชอบความชื้นสูง น้ำ                                ควรให้น้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ดินปลูก                         ดินร่วน 2 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่า 1 ส่วน ใบไม้ผุๆ 1 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน ปุ๋ย                                ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำรดเดือนละครั้ง กระถาง                         การเปลี่ยนกระถางให้ดูความเหมาะสมของทรงต้นด้วย

Read More »

แพงแพวแดง (แดงเชียงใหม่)

ชื่อสามัญ Blood leaf ชื่อวิทยาศาสตร์ Lresine herbstii ตระกูล AMARANTHACEAE ถิ่นกำเนิด ประเทศบราซิล ลักษณะทั่วไป แพงแพวแดง เป็นไม้ประดับพุ่มเตี้ยประเภทคลุมดิน ใบมีสีแดงคล้ายหมาก และถ้าได้รับแสงแดดมากสีก็จะแดงขึ้นเรื่อยๆ แพงแพวแดงนี้มีทั้งใบแหลมและใบมน จัดเป็นไม้ประดับที่มีความแข็งแรง ทนทานพอสมควร เหมาะที่จะนำไปประดับร่วมกับพันธุ์ไม้ชนิดอื่นที่มีสีตัดกัน ซึ่งจะช่วยเสริมความงามให้เด่นชัดขึ้นอีก ถ้าต้องการ ให้แตกเป็นพุ่มก็ควรหมั่นเด็ดยอดอยู่เสมอ การดูแลรักษา แสง                              ต้องการแสงอย่างน้อย 4-6 ช.ม. / วัน อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18 – 24 องศาเซลเซียส ความชื้น                       ต้องการความชื้นพอสมควร ดังนั้นควรใช้ถาดใส่น้ำตั้งไว้ใกล้ๆ กระถางด้วย น้ำ                                ระยะที่กำลังเจริญเติบโตต้องการน้ำมากและในฤดูหนาวควรลดการให้น้ำลง ดินปลูก                         ดินร่วน 1 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่า 1 ส่วน ใบไม้ผุๆ 1 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน ปุ๋ย                                ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำรดเดือนละครั้ง กระถาง                         ถ้าเป็นกระถางเล็กควรเปลี่ยนกระถางปีละ 2 ครั้ง การขยายพันธุ์               ตัดชำ

Read More »
prakaykoun

ประกายเงิน

ชื่อสามัญ Striped dracaena ชื่อวิทยาศาสตร์ Dracaena deremensis “Warneckei” ตระกูล LILIACEAE ถิ่นกำเนิด อัฟริกา ลักษณะทั่วไป จัดเป็นพันธุ์ไม่ที่สวยงามมาก คือ ใบมีสีเขียว ที่ริมขอบใบจะมีสีขาว และส่วนอื่นๆ ของใบก็จะมีสีขาวกระจายอยู่ทั่วไป ประกายเงินจะมีใบแคบและยาว ข้อถี่ มีกาบใบหุ้มลำต้นมาก มีความทนทานและง่ายแก่การปลูกเลี้ยง เหมาะที่จะนำไปประดับภายในอาคาร หรือสถานที่ที่มีร่มรำไร การดูแลรักษา แสง                              ชอบแสงแดดรำไร อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18 – 24 องศาเซลเซียส ความชื้น                       สูง น้ำ                                ชอบน้ำแต่ไม่ควรให้แฉะ ดินปลูก                         ดินร่วนซุย 2 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่า 1 ส่วน ใบไม้ผุๆ 1 ส่วน ปุ๋ย                                ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำรดเดือนละครั้งหรือใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-16 อัตรา 2 ช้อนชา                                       ต่อกระถาง ขนาด 8 นิ้ว กระถาง                         เปลี่ยนกระถางทุกปี การขยายพันธุ์               ตัดชำ ตัดยอดแช่น้ำ

Read More »
kounimp

กวนอิม

ชื่อสามัญ Ribbon ชื่อวิทยาศาสตร์ Dracaena sanderiana ตระกูล LILIACEAE ถิ่นกำเนิด ประเทศคามารูน และคองโก ในทวีปอัฟริกาตอนกลา ลักษณะทั่วไป กวนอิมเป็นไม้ที่มีลำต้นมีขนาดเล็ก เนื้อไม้อ่อน ใบค่อนข้างป้อม ปลายใบแหลมก้านใบยาว โคนใบเป็นกาบใบหุ้มรอบลำต้นลำต้นมีขนาดเล็ก เนื้อไม้อ่อน นิยมตัดลำต้นไปแช่น้ำในแก้วหรือในแจกันจะอยู่ได้นานเพราะสามารถออกราก ในน้ำได้ดี ต้นแม่แบบจะมีสีเขียว ใบยาวเก้งก้าง มีพันธุ์ต่างๆ ดังนี้คือ กวนอิมเหลือง กวนอิมเงิน กวนอิมทอง และกวนอิมใบสีเทา การดูแลรักษา แสง                              ชอบแสงแดดรำไร อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18 – 24 องศาเซลเซียส ความชื้น                       สูง น้ำ                                ชอบน้ำแต่ไม่ควรให้แฉะ ดินปลูก                         ดินร่วนซุย 2 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่า 1 ส่วน ใบไม้ผุๆ 1 ส่วน ปุ๋ย                                ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำรดเดือนละครั้งหรือใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-16 อัตรา 2 ช้อนชา                                       ต่อกระถาง ขนาด 8

Read More »
paipili

ไผ่ดำหรือไผ่ฟิลิปปินส์

ชื่อสามัญ Gold dust ชื่อวิทยาศาสตร์ Dracaena surculosa ตระกูล LILIACEAE ถิ่นกำเนิด ประเทศคองโก ทวีปอัฟริกา ลักษณะทั่วไป ไผ่ดำมีใบค่อนข้างป้อมมากกว่า Dracaena ชนิดอื่นๆ ใบมีสีเขียวเข้มใบอ่อนมีจุดประสีเขียวอ่อน อยู่ประปรายแต่พอใบแก่ขึ้นจุดสีเขียวอ่อนเหล่านี้จะค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นสีเขียวเข้ม เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ใบแตกที่ยอดเป็นชุดๆ ชุดละ 2-3 ใบ ติดกัน สามารถใช้ประดับประดาภายในอาคารได้เป็นอย่างดี ชอบแสงแดดรำไร และทนอยู่ในที่ ๆ มีแสงทึบได้เป็นเวลานาน ไผ่ดำนี้ได้มีกลายพันธุ์ออกไปมากมายอันได้แก่ ไผ่ฟิลิปปินส์ ไผ่ฟิลิปปินส์จุดมาก ทางช้างเผือก บางกอกบิวตี้ และสโนไวท์ การดูแลรักษา แสง                              ชอบแสงแดดรำไร อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิ ประมาณ 18 – 24 องศาเซลเซียส ความชื้น                       สูง น้ำ                                ชอบน้ำแต่ไม่ควรให้แฉะ ดินปลูก                         ดินร่วนซุย 2 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่า 1 ส่วน ใบไม้ผุๆ 1 ส่วน ปุ๋ย                                ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำรดเดือนละครั้งหรือใช้ปุ๋ยเคมีสูตร

Read More »
วาสนามังกรหยก

วาสนามังกรหยก

ชื่อสามัญ Queen of Dracaenas ชื่อวิทยาศาสตร์ Dracaena goldieana. ตระกูล AGAVACEAE ชื่ออื่น มังกรหยก ลักษณะทั่วไป วาสนามังกรหยกเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นมีความสูงประมาณ 4-10 เมตร ลำต้นกลม ต้นตรง ไม่มีกิ่งก้าน ลำต้นเป็นข้อถี่ผิวเปลือกลำต้นมีสีน้ำตาลใบเป็นใบเดี่ยวแตกออกจากลำต้นส่วนยอดเรียงซ้อนกันเวียนรอบลำต้นเป็นรูปวงกลมลักษณะใบเรียวยาว ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบเกลี้ยงเป็นมันสีเขียว ตัวใบโค้งงอ ขนาดใบกว้างประมาณ 3-6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 20-40 เซนติเมตรออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้นช่อดอกมีขนาดใหญ่เป็นรูปทรงกลมช่อดอกยาวดอกมีขนาดเล็กอยู่รวมกันเป็นกลุ่มดอกมีสีขาวหรือเหลืองอ่อน กลิ่นหอมฉุน การเป็นมงคล คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นวาสนามังกรหยกไว้ประจำบ้านจะทำให้มีบุญที่ลูงล้นมีโชควาสนาที่ประเสริฐนักเพราะวาสนามังกรหยกเป็นไม้มงคลนามที่คนไทยโบราณนิยมปลูกกันมานานและยังมีความเชื่ออีกว่าถ้าผู้ใดปลูกต้นวาสนาแล้วสามารถดูแลรักษาไว้สวยงามและออกดอก เชื่อกันว่าจะทำให้มีโชคลาภตามไปด้วย ต้นวาสนาที่นิยมปลูก 1.วาสนาราชินี 2. วาสนาอธิษฐาน ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นวาสนามังกรหยกไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ปลูกควรปลูกในวันอังคาร เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาประโยชน์ทางใบให้ปลูกในวันอังคาร ถ้าจะให้เป็นมงคลยิ่งขึ้นผู้ปลูกควรเป็นสภาพสตรี เพราะวาสนามังกรหยกเป็นชื่อที่เหมาะสมกับสุภาพสตรี การปลูกมี 2 วิธี 1.การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30

Read More »

ลิ้นมังกรสั้น

ชื่อสามัญ Snake plant ชื่อวิทยาศาสตร์ Sansevieria trifasciata “Hohnii” ตระกูล AGAVACEAE ถิ่นกำเนิด เขตร้อนของอัฟริกา ลักษณะทั่วไป ลิ้นมังกรสั้นนี้ สามารถปลูกให้สูงได้ราว 6 นิ้ว เท่านั้น มีลำต้นแตกออกเป็นกลีบๆ คล้ายกับกลีบของดอกไม้ลิ้นมังกรสั้นนี้บางต้นมีลายเส้นสีเขียวสลับเทาและมีใบแข็งเป็นมันลื่น มองดูสวยงามมาก เมื่อช่องใบแตกจนถึงขนาดหนึ่งลิ้นมังกรจะชะงักการเจริญเติบโต และที่โคนต้นก็จะมีกลีบใบอ่อนๆ แทงขึ้นมากจากดินเต็มไปหมด เราสามารถที่จะตัดแยกเอาส่วนที่แตกขึ้นมาใหม่นี้ ไปปลูกใหม่ได้เลย ลิ้นมังกรสั้นนี้ก็เหมือนกับลิ้นมังกรยาวคือ ไม่ว่าอากาศร้อน อากาศเจ็นแสงมาก หรือแสงน้อยจะทนได้ทุกสภาวะ การดูแลรักษา แสง                              ต้องการแสงปานกลาง อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิที่เหมาะแก่การเจริญเติบโต ประมาณ 18 – 27 องศาเซลเซียส ความชื้น                       ปานกลาง น้ำ                                รดน้ำแต่พอประมาณและไม่ควรให้ดินแฉะ ดินปลูก                         ดินร่วน 3 ส่วน ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่า 1 ส่วน ใบไม้ผุๆ 1 ส่วน ทรายหลาย 1 ส่วน ปุ๋ย                                ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกละลายน้ำรดเดือนละครั้ง กระถาง                         แล้วแต่จะเห็นสมควรหรือดูว่าแน่นเกินไป ก็สมควรจะเปลี่ยนได้ การขยายพันธุ์               ตัดใบเป็นท่อนๆ

Read More »
promkreaw

พรมเขียว

ชื่อสามัญ Mosaic plant ชื่อวิทยาศาสตร์ Fittonia verschaffeltei ตระกูล ACANTHACEA ถิ่นกำเนิด ประเทศเปรู ลักษณะทั่วไป พรมเขียวเป็นพืชคลุมดินที่มีขนาดเล็ก คือมีความสูงไม่เกิน 5-10 ซ.ม. ใบเป็นรูปไข่สีเขียวเข้ม เส้นใบ จะมีสีเขียวอ่อนหรือเขียวอมเหลือง มองเห็นได้เด่นชัด พรมเขียวเป็นพืชที่ต้องการความชื้นสูง ใบของมันจะแผ่แบน ราบเกือบติดดิน เหมาะที่จะปลูกเลี้ยงไว้ในกระถางทรงแบน ซึ่งอาจแขวนหรือตั้งวางไว้บนโต๊ะก็ได้ พรมเขียวนี้ สามารถที่จะเจริญเติบโตได้ดี แม้ในที่ๆ มีแสงน้อยเต็มที ซึ่งพืชชนิดอื่นไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในหน้าร้อน จะต้องให้น้ำให้ปุ๋ยเพิ่มขึ้น ส่วนหน้าหนาวให้ลดปริมาณน้ำลง การดูแลรักษา แสง                              ต้องการแสงน้อย อุณหภูมิ                        ชอบอุณหภูมิต่ำ ประมาณ 13 – 18 องศาเซลเซียส ความชื้น                       ต้องการความชื้นสูงควรฉีดพ่นละอองน้ำให้อย่างสม่ำเสมอ น้ำ                                อย่าให้น้ำมาก การให้น้ำให้สังเกตดูความชื้นของดิน ดินปลูก                         ดินร่วน 1 ส่วน ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน ใบไม้ผุๆ 1 ส่วน ทรายหลาย 1 ส่วน ปุ๋ย                                ใช้ปุ๋ยหมักละลายน้ำรดเดือนละครั้งแต่ในห้าร้อนซึ่งพรมเขียวเจริญเติบโตได้ดี

Read More »
binak

ใบนาค

ชื่อสามัญ P. kewense ชื่อวิทยาศาสตร์ Pseuderanthemum atropurpureum. วงศ์ ACANTHACEAE ชื่ออื่น นาคนอก ทองสัมฤทธิ์ ลักษณะทั่วไป ใบนาคเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ลักษณะเป็นพุ่ม ลำต้นมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาออกจากโคนต้นและเจริญพุ่งตรงขึ้นไปข้างบน ลำต้นกลมเล็กสีขาวปนเทา ใบเป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ ๆ ตรงกันข้ามลักษณะใบคล้ายรุปหอกปลายใบแหลมโคนใบสอบ ขอบใบเรียบพื้นใบมีสีเขียวอมม่วงสีขาวม่วงสีชมพูเข้มปนคละกันไม่เป็นระเบียบขนาดใบกว้างประมาณ 3-6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 7-10 เซนติเมตร ดอกออกเป็นช่อสั้นออกตามส่วนยอดลักษณะเป็นหลอดยาวประมาณ2-3 เซนติเมตร โคนหลอดจะมีกลีบดอก 3 กลีบ ปลายดอกบานมีสีม่วง การเป็นมงคล คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นใบนาคไว้ประจำบ้านจะทำให้มีเงินมีทองเพราะเป็นไม้มงคลนามนอกจากนี้คนไทยโบราณได้นำใบนาคมาประกอบพิธีสำคัญทางศาสนาเช่นการทำน้ำพุทธมนน์การขึ้นบ้านใหม่ดังนั้นคนไทยโบราณจึงเชื่อว่าต้นใบนาคเป็นไม้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นใบนาคไว้ทางทิศตะวันออกหรือทิศใต้ก็ได้ ผู้ปลูกควรปลูกในวันอังคารเพราะคนโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาประโยชน์ทั่วไปทางใบให้ปลูกในวันอังคารถ้าจะให้เป็นมงคลยิ่งขึ้นนั้นควรปลูกต้นใบเงิน ใบทอง ใบนาค ไว้บริเวณเดียวกันหรือใกล้กันก็จะดียิ่งนัก การปลูกมี 2 วิธี 1. การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคารบ้านเรือน ใช้กระถางทรงสูงขนาด 10-14 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : แกลบผุ :

Read More »
tourang

เต่าร้าง

ชื่อสามัญ Fishtail palm ชื่อวิทยาศาสตร์ Caryota mitis. ตระกูล PALMAE ถิ่นกำเนิด เอเซียจนถึงหมู่เกาะแปซิฟิก เช่นไทย อินเดีย ลังกา ออสเตรเลีย ลักษณะทั่วไป เต่าร้างนี้เป็นปาล์มที่มีใบสวยงามมาก เป็นปาล์มที่มีหน่อขึ้นอยู่เป็นกอใบมีลักษณะรูปขนนก สีเขียวเข้มเป็นมันลักษณะของใบย่อยคล้ายครีบหรือหางปลา เวลาลมพัดใบโบกสะบัดดูงดงามยิ่ง เต่าร้างนี้เมื่อต้นยังเล็กนิยมปลูกในกระถาง ตั้งประดับไว้ในอาคารบ้านเรือนจนโตได้ขนาด จึงย้ายลงปลูกที่ดิน การดูแลรักษา แสง                         ต้องการแสงมาก แต่ก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับบรรยาศภายในร่มที่มีแสงน้อยได้ น้ำ                            ต้องการน้ำและความชื้นมาก  ดิน                          สามารถปลูกได้ในดินทุกชนิดแต่ดินที่เหมาะคือดินร่วนปนทราย ปุ๋ย                          ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ปีละ 2 ครั้ง การขยายพันธ์          โดยการเพาะเมล็ดและแยกหน่อ โรคและแมลง           เต่าร้างไม่ค่อยมีโรคแมลงเท่าไหร่ แต่จะมีไรแดงรบกวนบ้างในช่วงที่อากาศแห้งแล้ง การป้องกันกำจัด     ฉีดพ่นด้วยมาลาไธออน ตามอัตราที่กำหนดไว้ในฉลาก

Read More »