สอบถามเพิ่มเติมที่ 0xx-xxx-xxxx
sakthong

สักทอง

ชื่อสามัญ Teak ชื่อวิทยาศาสตร์ Tectona grandis Linn. ตระกูล VERBENACEAE ชื่ออื่น กระเบียด ลักษณะทั่วไป สักทองเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 15-30 เมตร ผิวเปลือกลำต้นมีสีน้ำตาล เปลือกเรียบลำต้นเปลาตรงแตกกิ่งก้านครงส่วนเรือนยอด ใบเป็นใบเดี่ยว เนื้อใบหนาสากคาย ใต้ใบจะมีขน ใบมีลักษณะกลมใหญ่ขนาดใบกว้างประมาณ 15-20 เซนติเมตร ยาวประมาณ 20-25 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อ ตามบริเวณปลายกิ่ง ดอกมีกาบหุ้มดอกเป็นรูปเรียวยาวประมาณ1 เซนติเมตรดอกมีกลีบดอก5 แฉกดอกมีขนาดเล็กสีขาวผลเป็นรูปทรงกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลางโตประมาณ 0.5 เซนติเมตร การเป็นมงคล คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นสักทองไว้ประจำบ้าน จะทำให้มีศักดิ์ศรี เพราะสัก หรือศักดิ์ คือการมีศักดิ์ศรี มีเกียรติศักดิ์ยศฐาบรรดาศักดิ์ นอกจากนี้ สัก หรือ สักกะ คือ พระอินทร์ผู้มีอานาจที่ยิ่งใหญ่ในสวรรค์ ดังนั้น สักทองจึงเป็นไม้มงคลนาม ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นสักทองไว้ทางทิศเหนือผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์ เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาคุณทั่วไปให้ปลูกในวันเสาร์ ถ้าจะให้เป็นมงคลมากยิ่งขึ้น ผู้ปลูกควรเป็นผู้ใหญ่ที่ควรเคารพนับถือ

Read More »
pai

ไผ่

ชื่อสามัญ Bamboo ชื่อวิทยาศาสตร์ Bambusa sp. ตระกูล GRAMINEAE ลักษณะทั่วไป ไผ่เป็นพรรณไม้ยืนต้น ลำต้นแตกเป็นกอเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ กอหนึ่งมีประมาณ 20-50ต้นลำต้นมีความสูงประมาณ 5 – 15 เมตรลักษณะลำต้นเป็นข้อปล้องผิวเกลี้ยงแข็งมีสีเขียวหรือเหลืองแถบเขียวลักษณะของข้อปล้องขนาดและสีขึ้นกับชนิดพันธุ์ใบเป็นใบเดี่ยวยาวแคบลักษณะคล้ายรูปหอกขอบใบเรียบผิวใบสีเขียวมีขนอ่อนๆคลุมบนผิวในบขนาดใบกว้างประมาณ 1 – 2 นิ้วยาวประมาณ512นิ้วหรือขึ้นกับชนิดพันธุ์ออกดอกเป็นช่อตามปลายยอดบริเวณข้อปล้องเมื่อดอกแห้งก็จะตายไป ผลหรือลูกคล้ายเมล็ดข้าวสาร การเป็นมงคล คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นไผ่ไว้ประจำบ้านทำให้คนในบ้านมีความซื่อตรง ความบริสุทธิ์เพราะต้นไผ่มีการเจริญเติบโตแตกกิ่งก้านตรงและเรียบส่วนภายในปล้องมีความขาวสะอาดนี่ก็เป็นความเชื่อของไผ่ทั่วไปสำหรับต้นไผ่สีสุกโบราณมีความเชื่ออีกว่า ทำให้เจ้าของบ้านและผู้อาศัยเกิดความมั่งมี อยู่ดีมีสุข เหมือนกับชื่อของต้นไผ่สีสุกเพราะเป็นไม้มงคลนาม ชนิดของทองหลางที่นิยมปลูกเป็นไม้มงคล 1. ไผ่สีสุก                                ชื่อสามัญ                                    : Phai seesuk    ชื่อวิทยาศาสตร์                           : Bambusa vulgaris    วงศ์                                           : GRAMINEAE 2. ไผ่เหลืองทอง                ชื่อสามัญ                                     : Vellow Running bamboo    ชื่อวิทยาศาสตร์                           : Phyllostachys sulphurea..    วงศ์                                            : GRAMINEAE    ชื่ออื่น                                          : ไผ่ลาย 3.

Read More »

เลี่ยน

ชื่อสามัญ Bead Tree ชื่อวิทยาศาสตร์ Melia azedarach ตระกูล MELIACEAE ชื่ออื่น เกรียน เกษมณี ลักษณะทั่วไป ลักษณะทั่วไป เลี่ยนเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 20-30 เมตร เป็นต้นไม้ที่มีการเจริญเติบโตเร็ว แตกกิ่งก้านออกไปรอบ ๆ ลำต้นเป็นจำนวนมาก เปลือกผิวลำต้นมีสีน้ำตาล มีแผลเป็นร่องตามยาว ลำต้นเจริญขึ้นตรง ทรงพุ่มกลมรูปกรวยโปร่ง ใบออกเป็นช่อ ช่อหนึ่งมีใบอยู่ประมาณ 3-5 ใบ ช่อใบยาวประมาณ 12 – 15 เซนติเมตร ลักษณะของใบย่อย ปลายใบแหลมเรียวโคนใบสอบของใบเป็นหยักแบบฟันเลื่อยบนใบเกลี้งสีเขียวส่วนล่างใบมีขนสีเขียวอ่อนเห็นเส้นใบชัดขนาดความกว้างของใบประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยายประมาณ 3-6 เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อ เป็นกระจุกใหญ่ออกตามปลายกิ่งที่ง่ามใบ ดอกมีฐานรองดอกเล็กมีกลีบดอก 5-6 กลีบ ดอกมีสีม่วงอ่อนหรือสีฟ้า กลิ่มหอม ผลกลม รีสีเขียวมีขนาดโตประมาณ0.5เซนติเมตร เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ภายในผลมีเมล็ดประมาณ 4-5 เมล็ด การเป็นมงคล

Read More »
payom

พะยอม

ชื่อสามัญ Shorea white Meranti ชื่อวิทยาศาสตร์ Shorea talure Roxb. ตระกูล DIPTEROCARPACEAE ชื่ออื่น พะยอมทอง แคน ลักษณะทั่วไป พะยอมเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่มีความสูงประมาณ15-20 เมตรผิวเปลือกสีน้ำตาลหรือสีเทาเนื้อไม้มีสีเหลืองแจ็งลำต้นเปลาตรงแตกแขนงเป็นทรงพุ่มกลมลำต้นแตกเป็นร่องตามยาวและมีสะเก็ดหนาใบเป็นรูปมนรีปลายใบแหลมโคนใบสอบมน ขอบใบเรียบ ด้านหลังใบมีเส้นใบมองเห็นได้ชัดใบมีสีเขียว ขนาดใบกว้างประมาณ 6-8 เซนติเมตร ยาวประมาณ 12-18เซนติเมตรดอกเป็นช่อใหญ่ออกตามส่วนยอดของต้นดอกมีกลีบ3กลีบโคนกลีบดอกติดกับก้านดอกมีลักษณะกลมกลีบดอกเรียบโค้งเล็กน้อย ยาวประมาณ 4-6 เซนติเมตร มีสีเหลืองอ่อน กลิ่นหอม การเป็นมงคล คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นพะยอมไว้ประจำบ้าน จะทำให้มีอุปนิสัยที่อ่อนน้อม เพราะ พะยอม คือ การยินยอม ตกลงผ่อนผันประณีประนอมนอกจากนี้ยังเชื่ออีกว่าจะไม่ขัดสนเพราะบุคคลทั่วไปมีความเห็นใจและยอมให้ในสิ่งที่ดีงามและยังเชื่ออีกว่าถ้าปลูกต้นพะยอมทองก็จะทำให้ไม่ขันสนเงินทองนอกจากนี้ลักษณะของดอกยังมีสีเหลืองทองและมีกลิ่นหอมหวลยวนใจอีกด้วย ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัยควรปลูกต้นพะยอมไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาคุณทั่วไปให้ปลูกในวันเสาร์ถ้าให้เป็นสิริมงคลแก่ตนเองผู้ปลูกควรเป็นสุภาถสตรีเพราะพะยอมเป็นชื่อที่เหมาะกับสุภาพสตรี การปลูก นิยมปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ขนาดหลุมปลูก 50 x 50 x 50 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2

Read More »
satabun

พญาสัตบรรณ

ชื่อสามัญ Devil Tree ชื่อวิทยาศาสตร์ Alstonia scholaris ตระกูล APOCYNACEAE ชื่ออื่น ตีนเป็ดไทย ลักษณะทั่วไป พญาสัตบรรณเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่มีความสูงประมาณ12-20 เมตรผิวลำต้นมีสะเก็ตเล็กๆสีขาวปนน้ำตาลกรีดดูจะมียางสีขาวลำต้นตรง แตกกิ่งก้านสาขามากลักษณะเป็ฯชั้น ๆ ใบออกเป็นกลุ่มบริเวณปลายกิ่งช่อหนึ่งมีใบประมาณ 5-7 ใบ ก้านใบสั้นใบสีเขียวถ้าเด็ดก้านใบจะมียางสีขาวลักษณะใบยาวรีปลายใบมนโคนใบแหลมขนาดใบยาวประมาณ10-12 เซนติเมตรออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่งหรือส่วนยอดของลำต้นดอกเป็นกลุ่มคล้ายดอกเข็มช่อหนึ่งจะมีกลุ่มดอกประมาณ7 กลุ่มดอกมีสีขาวอมเหลืองผลเป็นฝักยาว ลักษณะเป็นเส้น ๆ มีขุยสีขาวค้ายฝ้ายปลิวไปตามลมได้ ในฝักมีเมล็ดเล็ก ๆ ติดอยู่กับขุยนั้น การเป็นมงคล คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นสัตบรรณไว้ประจำบ้านจะทำให้มีเกียรติเพราะพญาสัตบรรณหรือฉัตรบรรณคือเครื่องสูงที่ใช้ในขบวนแห่เป็นเกียรติยศ และ พญา ก็คือ ผู้เป็นใหญ่ที่ควรยกย่อง เคารพนับถือ ดังนั้นพญาสัตบรรณจึงเป็นไม้มงคลนามนอกจากนี้การเจริญเติบโตของทรงพุ่มมีลักษณะคล้ายกับฉันรคือเป็นชั้นๆและยังมีความเชื่ออีกว่าบ้านใดปลูกต้นพญาสัตบรรณไว้ประจำบ้านจะได้รับการยกย่องและนับถือจากบุคคลทั่วไปเพราะสัตคือสิ่งที่ดีงามมีคุณธรรมดังนั้นจึงเป็นที่เคารพนับถือและยกย่องของคนทั่วไป ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัยควรปลูกต้นพญาสัตบรรณไว้ทางทิสเหนือผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาคุณทั่วไปให้ปลูกในวันเสาร์ถ้าให้เป็นมงคลยิ่งขึ้นผู้ปลูกควรเป็นผู้ใหญที่ควรเคารพนับถือและเป็นผู้ที่ประกอบคุณงามความดี ก็จะเป็นสิริมงคลยิ่งนัก การปลูก นิยมปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ควรห่างจากบ้านพอสมควรเพราะเมื่อมีอายุมาก ขนาดทรงพุ่มจะสูงใหญ๋ ขนาดหลุมปลูก 50 x 50 x 50 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 :

Read More »
pip

ปีบ,ปีป

ชื่อสามัญ Cork Tree ชื่อวิทยาศาสตร์ Millingtonia hortensis Linn. ตระกูล BIGNONIACEAE ชื่ออื่น กาชะลองคำ ลักษณะทั่วไป ปีปเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่มีความสูงประมาณ10-20 เมตรผิวเปลือกลำต้นมีสีเทาบริเวณเปลือกลำต้นและกิ่งก้าน มีรอยขระขระ มีจุดเล็กบ้างใหญ่บ้างคละกัน ใบจะออกเป็นช่อ แต่ละช่อจะประกอบด้วยใบจำนวนมาก ลักษณะใบกลมรี ปลายใบแหลม ริมขอบใบเรียบ โคนใบมนใต้ใบจะสังเกตุเห็นเส้นใบได้ชัด ขนาดใบกว้าง ประมาณ 2-3 เซนติเมตรยาวประมาณ3-6 เซนติเมตรดอกออกเป็นช่อตั้งตรงลักษณะของดอกเป็นท่อยาวประมาณ23นิ้วดอกมีสีขาวปนเหลืองเล็กน้อยขนาดดอกโตประมาณ 2 เซนติเมตรปลายกลีบดอกแยกออกเป็นแฉกมี 5 แฉกตรงกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียติดอยู่ด้านในใกล้ปากท่อผลมีลักษณะเป็นฝักแบนยาวประมาณ 8-10 นิ้ว กว้างประมาณ 1 นิ้ว ภายในมีเมล็ดลักษณะแบบ ปลิวไปตามลมได้ การเป็นมงคล คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นปีปไว้ประจำบ้านจะทำให้เก็บเงินเก็บทองได้มาก เพราะ ปีป คือ ภาชนะที่ใช้ในการบรรจุของ ดังนั้นคนไทยโบราณเรียกภาชนะใส่ของที่มีค่าว่า ปีปเงิน ปีปทอง นอกจากนี้ยังเชื่ออีกว่าสามารถทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง เพราะปีปมีลักษณะแข็งและโปร่ง เวลาเคาะหรือตีจะเกิดเสียงดังไปไกล ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นปีปไว้ทางทิศตะวันตกผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์ เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาคุณ

Read More »
prado

ประดู่

ชื่อสามัญ Burma Padauk ชื่อวิทยาศาสตร์ Plerocapus indicus. ตระกูล PAPILIONACEAE ลักษณะทั่วไป ประดู่เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่มีความสูงประมาณ10-25 เมตรผิวเปลือกลำต้นมีสีดำหรือเทาลำต้นเป็นพูไม่กลมแตกกิ่งก้านสาขากว้างมีเรือนยอดทึบแตกเป็นสะเก็ดร่องตื้นๆใบเป็นช่อแตกออกจากปลายกิ่งมีใบย่อยประกอบอยู่ประมาณ 6-12 ใบ ลักษณะของใบเป็นรูปมนรีปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบเป็นมันสีเขียว ใบมีขนาดยาวประมาณ2-3 นิ้ว กว้างประมาณ 1-2 นิ้ว ออกดอกเป็นช่อออกตามปลายกิ่ง ดอกมีขนาดเล็กสีเหลือง ผลมีขนเล็ก ๆปกคลุมขนาดผลโตประมาณ 4-6 เซนติเมตร การเป็นมงคล คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นประดู่ไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดพลังแห่งความยิ่งใหญ่เพราะ ประดู่ คือ ความพร้อม ความร่วมือ ร่วมใจสามัคคี มีพลังเป็ฯอันหนึ่งอันเดียวกัน นอกจากนี้ดอกของประดู่ยังมีลักษณะที่ระดมกันบานเต็มต้นดูลานตา ดังนั้นคนโบราณจึงได้เลือกเอาต้นประดู่เป็นไม้ประจำกอง กองทัพเรือ และคนไทยโบราณยังเชื่ออีกว่า ส่วนของแก่นไม้ยังใช้เป็นศิลปะการดนตรี ที่สำคัญของคนพื้นเมืองในสมัยโบราณอีกด้วย คือใช้ทำเป็นเครื่องเสียงพวกระนาด นั่นก็หมายถึง ความแข็งแกร่ง แข็งแรง ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก นิยมปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวนขนาดหลุมปลูก 50x50x50 เซนติเมตรใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก:ดินร่วนอัตรา 1:2 ผสมดินปลูกถ้าปลูกประดับบ้านเรือนหรืออาคารควรปลูกให้มีระยะห่างที่เหมาะสมเพราะประดู่เป็นไม้ที่มีทรงพุ่มใหญ่ การปลูก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัยควรปลูกต้นประดู่ไว้ทางทิศตะวันตกผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาคุณให้ปลูกในวันเสาร์ถ้าจะให้เป็นมงคลยิ่งขึ้นผู้ปลูกควรเป็นผู้ใหญ่ที่ควรเคารพนับถือและเป็นผู้ที่ประกอบคุณงามความดีก็จะเป็นสิริมงคลยิ่งนัก การดูแลรักษา

Read More »
chi

ไทร

ชื่อสามัญ Banyan Tree ชื่อวิทยาศาสตร์ Ficus annlata. ตระกูล MORACEAE ลักษณะทั่วไป ไทรเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-20 เมตร ลำต้นครงแตกกิ่งก้านเป็นพุ่มทึบบางชนิดก็เป็นพุ่มโปร่ง มีรากอากาศห้อยลงมาตามกิ่งก้านและลำต้น ผิวเปลือกเรียบสีขาวปนเทา ใบเป็นใบเดี่ยวแตกออกจากกิ่ง และส่วนยอดของลำต้น ใบออกเป็นคู่สลับกัน ลักษณะใบ ขนาดใบ และสีสรรแตกต่างกันตามพันธุ์ การเป็นมงคล คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นไทรไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความร่มเย็น เพราะคนโบราณได้กล่าวว่า ร่มโพธิ ร่มไทรช่วยทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขนอกจากนี้ยังช่วยคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวงเพราะบางคนเชื่อว่าต้นไทรเป็ฯต้นไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีเทพารักษ์อาศัยอยู่คอยคุ้มครองพิทักษ์ปวงชนให้มีความอยู่เย็นเป็นสุข ชนิดของไทรที่นิยมปลูกเป็นไม้มงคล 1. ไทรยอดทอง                            2. ไทรย้อย                                    : (Weeping Fig)3.  ไทรใบเล็ก                            .4.  ไทรใบยาว                                :(Ficus barteri)5.  ไทรสุวรรณ                                : (Variegated Mini-rubber)            6.  ไทรด่าง                                     : (Cleyera japonica) ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัยควรปลูกต้นไทรไว้ทางทิศตะวัตตกผู้ปลูกควรปลูกในวันอังคารเพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาประโยชน์ทางใบให้ปลูกในวันอังคาร การปลูกมี 2 วิธี 1.การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวนโบราณนิยมปลูกไว้เพื่อประดับบริเวณสวนเพราะเป็นไม้ที่มีการแตก   กิ่งก้าน สาขาที่กว้างใหญ่ ขนาดหลุมปลูก

Read More »
thonhlang

ทองหลาง

ชื่อสามัญ Coral Tree ชื่อวิทยาศาสตร์ Erythrina crista – galli. ตระกูล PAPILIONACEAE ลักษณะทั่วไป ทองหลางเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ลำต้นมีความสูงประมาณ 10 – 20 เมตรผิวเปลือกลำต้นบางมีสีเทาหรือเหลืองอ่อนๆ ลำต้นและกิ่งก้านนั้นมีหนามแหลมคมใบเป็นใบรวมออกเป็นช่อมีประมาณ 3 ใบลักษณะใบเป็นรูปสามเหลี่ยมคล้ายใบโพธิ์ขนาดใบกว้างประมาณ 2 -3 นิ้วยาวประมาณ35นิ้วผิวใบเรียบสีเขียวหรือด่างเหลืองๆใต้ท้องใบมีสีขาวขุ่นก้านช่อยาวประมาณ 3-5 นิ้วดอกออกเป็นช่อติดกันเป็นกลุ่มออกตามบริเวณข้อต้นหรือโคนก้านใบลักษณะดอกคล้ายกับดอกถั่วมีสีแดงหรือชมพูกลีบดอกกว้างประมาณ 1-2 นิ้ว ยาวประมาณ 2-3 นิ้ว ช่อดอกยาวประมาณ 4-8 นิ้ว ผลเป็นฝักแบนโค้งเล็กน้อยโคนฝักจะลีบเล็กผลแก่ฝักจะแตกที่ปลายอ้าออกภายในฝักมีเมล็ดเป็นเหลี่ยมนอกจากนี้ลักษณะของต้นใบดอกแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์ การเป็นมงคล คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นทองหลางไว้ประจำบ้านจะทำให้มีทองมาก มีความร่ำรวย เพราะทองหลางเป็นไม้มงคลนาม คือมีทองมากมายหลากหลาย นอกจากนี้ทองหลางใบสีทองยังมีความสวยงาม ดุจประกายทองสีเหลือง เรืองรองดูดาดตาและโบราณยังมีความเชื่ออีกว่าถ้านำใบทองหลางไปใช้เป็นเครื่องประกอบในพิธีสำคัญทางศาสนาจะทำให้เกิดสิริมงคลยิ่งขึ้น เช่น พิธีปลูกบ้าน พิธีแต่งาน และยังเชื่ออีกว่า ต้นทองหลางเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ที่ปลูกบนสวรรค์ในสมัยพุทธกาล จึงได้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ต้นประวาลพฤกษ์หรือต้นปาริชาติ ชนิดของทองหลางที่นิยมปลูกเป็นไม้มงคล 1. ทองหลางด่าง                                ชื่อสามัญ                                 

Read More »
thonhgaw

ทองกวาว

ชื่อสามัญ Flame of th Forest ชื่อวิทยาศาสตร์ Butea monosperma. ตระกูล LEGUMINOSAE ชื่ออื่น จอมทอง ทองต้น ทองธรรมชาติ ลักษณะทั่วไป ทองกวาวเป็นพรรณไม้ยืนต้น ขนาดกลางและใหญ่ ลำต้นสูงประมาณ 12-18 เมตร ผิวเปลือกสีน้ำตาลหรือสีเทาคล้ำผิวเปลือกเป็นตุ่มหรือปม การแตกกิ่งก้านไปในทิศทางที่ไม่ค่อยเป็นระเบียบ ใบออกเป็นช่อมีใบประกอบ 3 ใบก้านใบยาวประมาณ 15 – 20 เซนติเมตร ลักษณะใบกลม ปลายมน รีแหลม โคนใบมนสอบ ขนาดใบกว้าง 2 – 5 นิ้วยาวประมาณ 4 – 8 นิ้ว ออกดอกเป็นช่อคล้ายกับดอกทองหลาง ดอกมีขนาดใหญ่สีแดงหรือสีเหลือง ดอกเป็นช่อสั้น มีกลีบดอก 5 กลีบ ผลมีลักษณะเป็นฝัก แบน โค้งงอเล็กน้อย ฝักยาวประมาณ 10 – 12

Read More »