สอบถามเพิ่มเติมที่ 0xx-xxx-xxxx

เล็บมือนาง

ชื่อวิทยาศาสตร์    Quisqualis indica Linn. ตระกูล                 COMBRETACEAE ชื่อสามัญ              Rangoon Creeper. ลักษณะทั่วไป ต้น        เล็บมือนางเป็นไม้เถาเนื้อแข็ง มีขนาดกลาง มึความสูงประมาณ 5 เมตร จะแตกกิ่งก้านสาขามาก                จนหนาทึบ และตามลำต้นหรือบริเวณกิ่งอ่อนจะมีขนสีน้ำตาลอมเทาขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณแต่                บริเวณ ต้นหรือกิ่งที่แก่แล้วผิวของต้นหรือกิ่งจะเกลี้ยงไม่มีขน หรือบางทีขนก็กลายไปเป็นหนาม                การปลูกจะต้องหาหลักยึด หรือร้านให้ลำต้น หรือเถาเล็บมือนางยึดเกาะใบ        เล็บมือนางเป็นไม้ใบเดี่ยว จะออกใบตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ ลักษณะของใบจะเป็ฯรูปมน ขอบใบ                ขนาน ปลายใบแหลม หรือปลายใบมนแล้วมีติ่งแหลม โคนใบจักเว้าเล็กน้อย ขอบใบเรียบ แต่                บางใบก็จะเป็นคลื่นเนื้อใบจะบางดอก      เล็บมือนางจะออกดอกเป็ฯช่อ อยู่บริเวณส่วนกลางยอดของลำต้นดอกจะมีลักษณะเป็นหลอดยาว                ประมาณ 4 นิ้ว ตรงปลายดอกจะแยกออกเป็น 5 กลีบ ดอกมีสีแดงอมขาว หรือสีชมพู หลอดของ                ดอกจะโค้งเล็กน้อย และจะมีเกสรยาว ๆ ยื่นออกมาจากกลางดอก 5 อัน ฤดูกาลออกดอก  เล็บมือนางมีวิธีการปลูกโดยให้นำเอากิ่งที่ได้จากการปักชำ มาปลูกลงดิน คนส่วนมากจะนิยมปลูกเล็บมือนางบริเวณรั้ว หรือซุ้มประตู หรือจจะปลุกตามสวนสาธารณะ

Read More »

ลดาวัลย์

ชื่อวิทยาศาสตร์    Porana volubilis Burm. ตระกูล                 CONVOLVULACEAE ชื่อสามัญ              ฺBridal Creeper. Snow Creeper.                             Bridal Wreath. ลักษณะทั่วไป ต้น        เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง มีขนาด.ใหญ่ เถาสีเขียว แต่เมื่อเถาแก่จะเป็นสีน้ำตาลและผิวจะเรียบ                ส่วนเถาอ่อนหรือบริเวณยอดอ่อนจะมีขนนุ่ม ๆ ขึ้นโดยทั่วไป ใบ         เป็นไม้ใบเดี่ยว และมีใบดก ตลอดทั้งปี ใบจะออกสลับกันไปตามข้อต้น ใบสีเขียวเข้ม ปลาย                ใบแหลม โคนใบเว้าหรือมนเล็กน้อย เป็นรูปหัวใจ ดอก       ออกดอกเป็นช่อ ตามซอกใบ กลีบดอกเป็ฯรูปกระดิ่ง ปลายดอกแยกออกเป็น 5 แฉก มีเกสร                 ตัวผู้ 5 อัน ดอกมีกลิ่นหอมในตอนเช้าและกลิ่นจะค่ย ๆจางลงเมื่อเวลาบ่าย ฤดูกาลออกดอก ออกดอกตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะให้ดอกดกมาก การปลูก ลดาวัลย์เป็นไม้ที่เจริญเติบโตเร็ว มีวิธีการปลูกโดยการนำกิ่งที่ได้จากการตอน การปักชำ การทาบกิ่งหรืออาจจะเป็นต้นกล้าจากการเพาะเมล็ดก็ได้ นำมาปลูกลงดินบริเวณริมรั้ว หรืออาจจะปลูกให้ขึ้นซุ้มหรือร้านก็ได้ โดยให้ขุดหลุมปลูกขนาดประมาณ 1×1 ฟุต รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยพืชสดหรือปุ๋ยหมักประมาณ1/4 ของหลุม

Read More »

ว่านเพชรสังฆาต

ชื่อวิทยาศาสตร์     Cissus quadrangularis Linn. ตระกูล                   VITACEAE ชื่อสามัญ                ฺEdible – stemed Vine   ลักษณะทั่วไป ต้น        ต้นหรือเถาของว่านเพชรสังฆาต จะมีลักษณะเป็นลำเล็ก ๆ ลำต้นหรือเถาเป็นเหลียม สี่เหลี่ยม                แตกเป็นท่อนสั้น ๆ ระหว่างท่อนแต่ละท่อนนั้นจะคั่นด้วยข้อและบางท่อนก็จะมีเส้นยาว ๆ เป็น                มือสำหรับพันยึดเกาะกับกิ่งที่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อทรงตัว หรือเมื่อว่านเพชรสังฆาตเลื้อยผ่านไปเพราะ                ว่านเพชรสังฆาตก็เป็นไม้เลื้อยชนิดหนึ่ง เช่นกันใบ        ลักษณะใบของว่านเพชรสังฆาตจะมีสีเขียว ใบจะออกตามข้อเป็นท่อนสั้น ๆ ใบจะเป็นใบเดี่ยว               จะออกท่อนละ 1 ใบ ลักษณะจะคล้ายกับใบตำลึงดอก      ลักษณะของดอกว่านเพชรสังฆาต จะมีขนาดเล็กมาก ดอกจะออกแซมตามข้อต้น เป็นกระจุก ๆ                และดอกจะมีสีแดง ผล         ว่านเพชรสังฆาตจะออกผลเป็นลูกกลม ๆ มีสีม่วงอมแดงหรือสีดำ ฤดูกาลออกดอก ออกดอกเกือบตลอดปี การปลุก ว่านเพชรสังฆาตมีวิธีการปลูก โดยการนำเอาต้นหรือส่วนที่ได้จากการปักชำมาปลูกลงแปลงปลูกแปลงปลูกควรพรวนดินให้ร่วน และผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักกับดินในแปลงปลูก แล้วจึงทำรั้วระแนงบริเวณริมแปลงปลูก เพื่อให้ว่าเพชรสังฆาตสามารถยึดเกาะ เพื่อการทรงตัวได้ การดูแลรักษา แสง       ว่านเพชรสังฆาตเป็นไม้ที่ชองแสงแดดจัด ทนแสงได้ เพราะฉะนั้นจึงควรปลูกในบริเวณที่ว่าน                เพชรสังฆาต

Read More »

สะแกวัลย์

ชื่อวิทยาศาสตร์      Calycopteris floribunda Lamk. ตระกูล                     COMBRETACEAE ชื่อสามัญ                         – ลักษณะทั่วไป  ต้น       เป็นไม้พุ่มเลื้อยที่มีขนาดใหญ่ เนื้อแข็ง เถาสีน้ำตาล กิ่งอ่อนเป็นสีเขียวและมีขน  ใบ        เป็นไม้ใบเดี่ยวใบออกตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ ตามข้อ ใบเป็นรูปไข่ หรือรูปรี โคนใบมนปลาย                ใบเรียวแหลม ใบสีเขียวเข้มด้านล่างใบมีขนสีน้ำตาลปนเหลืองและนุ่ม ขึ้นอยู่หนาแน่น ดอก       ออกดอกเป็นช่อกระจายอยู่ตามปลายกิ่งหรือปลายยอด ดอกมีสีเขียวอมเหลือง มีขน มีกลีบเลี้ยง                ส่วนปลายของกลีบเลี้ยง จะแยกออกเป็น 5 กลีบ ไม่มีกลีบดอก มีเกสรตัวผู้ 10 อัน เป็นรูปรี ฤดูกาลออกดอก  ออกดอกเดือนมกราคมถึงมีนาคม การปลูก ปลูกโดยการนำเอากิ่งที่ได้จากการตอนหรือต้นกล้าที่ได้จากการเพาะเมล็ดมาปลูกลงดินโดยขุดหลุมปลูกให้มีขนาด 1×1 ฟุต หรือมากกว่านี้เล็กน้อยรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก ประมาณ 1/4 ของหลุมกลบดินเล็กน้อย แล้ววางกิ่งลงกลางหลุม กลบดินพอแน่น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม ควรปลูกสะแกวัลย์ใกล้ริมรั้วหรืออาจจะปลูกเป็นซุ้มประตูหรือไม่ก็จะต้องทำร้านโครงไม้หรือโครงเหล็กเพื่อให้เถาของสะแกวัลย์เลื้อยพาดไปได้ การดูแลรักษา แสง       สะแกวัลย์เป็นไม้ที่ต้องการแสงแดดปานกลาง น้ำ         ต้องการน้ำปานกลาง ในระยแรกปลูกควรหมั่นรดน้ำให้ดินมีความชุ่มชื้นอยู่อย่างสม่ำเสมอ                แต่เมื่อต้นโตแล้วให้รดน้ำวันละ 2 ครั้ง

Read More »

สายน้ำผึ้ง

ชื่อวิทยาศาสร์     Lonicera japonica Thumb. ตระกูล                CAPRIFOLIACEAE ชื่อสามัญ             ฺWoodbine, Lonicera,                            Japonese Honeysuckle  ลักษณะทั่วไป ต้น       สายน้ำผึ้งไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก สามารถเลื้อยไปได้ไกลตั้งแต่ 5-8 เมตร หรืออาจมากกว่านี้ เถา               จะมีสีเขียว แต่เมื่อเถาแก่ก็จะเป็นสีน้ำตาลเข้มเปลือกมีรอยแผลเป็นร่องเล็ก ๆ แตกออกตามยาว                ของต้นหรือเถา ตามเถาหรือกิ่งจะปกคลุมไปด้วยขนนุ่ม ใบ        ลักษณะของใบจะเป็นใบเดี่ยว ออกเป็นคู่ขนานกันตามข้อของต้น ใบค่อนข้างแข็ง รูปใบมน               ปลายใบแหลมดอก      ดอกจะออกเป็นช่อตามยอด หรือปลายกิ่งและตามง่ามใบ ช่อดอกหนึ่ง ๆ จะมีดอกประมาณ 20 ดอก                ดอกมีลักษณะเป็นรูปทรงกรวยยาวประมาณ 4 เซนติเมตร กลีบดอกเมื่อบานออกจะมีลักษณะเป็น                ริ้วเล็ก ๆ ี 5 นิ้วกลีบดอกเมื่อแรกบานจะมีสีขาว แล้วจะค่อย ๆ กลายเป็นสีเหลือง และจะมีสีเหลือง                จัดขึ้นเมื่อดอกใกล้โรย ดอกจะมีกลิ่นหอมแรงในเวลากลางคืน และแต่ละดอกจะมีใบประดับ 1 คู่ ฤดูกาลออกดอก ถ้าปลูกในเมืองหนาว สายน้ำผึ้งจะออกดอกปีละครั้ง คือจะออกดอกระหว่างเดือนมีนาคม

Read More »

สายหยุด

ชื่อวิทยาศาสร์       Desmos chinensis Lour. ตระกูล                  ANNONACEAEชื่อสามัญ              Desmos ลักษณะทั่วไป ต้น        สายหยุดเป็นไม้เถาเลื้อยกึ่งไม้ยืนต้น มีเถาใหญ่แข็งแรงสามารถเกาะเลื้อยพันต้นไม้ หรือกิ่งอื่น ๆ                ไปได้ไกล และมักจะแตกกิ่งก้านสาขามากในบริเวณยอด และจะแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปเป็นบริเวณ                กว้าง กิ่งอ่อนจะมีสีน้ำตาลและมีขนอ่อน ๆ ขึ้นปกคลุมโดยทั่วไป ส่วนกิ่งแก่นั้นจะมีสีดำเป็นมัน ไม่มีขน ใบ        ใบจะออกสลับกันตามข้อต้น ใบจะเป็นใบเดี่ยว รูปขอบขนานแกมรูปหอก ปลายใบแหลมเป็ฯติ่งสั้น                โคนใบมนหรือเว้าเล็กน้อย ใบด้านบนเรียบ ส่วนด้านล่างจะมีขน ขอบใบเรียบ ไม่มีจัก ใบสีเขียวเข้ม ดอก      สายหยุดจะออกดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกแบบตามขอต้นโคนก้านใบ และที่ตาซึ่งติดกับลำต้นลักษณะของ                ดอกเมื่อยังตูมอยู่จะเป็นสีเขียว และเมื่อบานจึงจะเป็นสีเหลือง ดอกจะห้อยลง ดอกมีขนาดเล็ก มีกลีบดอก                5-6 กลีบ แบ่งเป็ฯ 2 ชั้น ๆ ละ 3 กลีบ และมีกลีบเลี้ยง 3 กลีบ กลีบดอกจะบิดงอเช่นเดียวกันกับดอกกระ                ดังงาไทย มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียจำนวนมากอยู่ภายในดอก ดอกจะมีกลิ่นหอมจัดในตอนเช้าตรู่                พอสายกลิ่นก็จะค่อย ๆ ลดความหอมลง

Read More »

สร้อยอินทนิล

ชื่อวิทยาศาสร์         Thunbergia grandiflora. ตระกูล                     ACANTHACEAE ชื่อสามัญ                  Key Vine, Sky Flower,                                Heavenly Blue, Blue Trumpet,                                BengalClockvine.  ลักษณะทั่วไป ต้น        สร้อยอินทนิลเป็นไม้เถาเลื้อยที่มีขนาดใหญ่ สามารถเลื้อยพันต้นไม้อื่นไปได้ไกลประมาณ                40-50 ฟุต เถาอ่อนมีสีเขียวเข้ม ส่วนเถาแก่จะเป็นสีน้ำตาล ใบ         เป็นไม้ใบเดี่ยว ออกใบเป็นคู่ตรงข้ามกันตามข้อต้น ลักษณะรูปทรงใบจะเป็นรูปไข่แกมรูป                 หัวใจ หรือใบคล้ายใบพลูเพียงแต่ปลายใบจะแหลมกว่าใบพลู โคนใบเว้าหยักเป็นรูปหัวใจ                 ใบมีขนแข็ง ๆ หากจับดูจะรู้สึกระคายมือใบมีความกว้างประมาณ 8 เซนติเมตร และมีความ                 ยาวประมาณ 10-20 เซนติเมตร ดอก       สร้ายอินทนิลมีดอกสีฟ้าอ่อนถึงสีฟ้าเข้ม อกดอกเป็นช่อตามข้อต้นหรือตามซอกใบ ดอกช่อ                 หนึ่ง ๆ ยาวประมาณ 3 ฟุต ลักษณะของดอกเป็นทรงกรวย ห้อยลง มี 5 กลีบ ขนาดของกลีบ                   ดอกไม่เท่ากัน โคนดอกเป็นหลอดปลายบานออก ภายในดอกมีเกสร 4 อัน ซึ่งมีความยาว                 ไม่เท่ากัน คือจะสั้น

Read More »

เสาวรสเเดง

ชื่อวิทยาศาสร์    Passiflora Laurifolia Linn. ตระกูล               PASSIFLORACEAE ชื่อสามัญ            Passiflora, Water Lemon. ลักษณะทั่วไป ต้น        เสวรสเป็นไม้เถาเลื้อยขนาดกลาง เถามีสีเขียวเข้มและเมื่อแก่เถาจะเป็นสีน้ำตาล                 มีมือเกาะออกตามซอกใบ ใบ         เป็นไม้ใบเดี่ยว ใบออกสลับกัน ใบดก ใบสีเขียวเป็นมัน เป็นรูปขอบชนาด ปลาย                ใบและโคนใบแหลม ก้านใบค่อนข้างยาก และตรงปลายก้านใบมีต่อมอยู่ 1 คู่ดอก       เป็นไม้ดอกที่มีขนาดใหญ่ เป็ฯดอกเดี่ยว ลักษณะดอกจะห้อยคว่ำลงคล้ายโคมไฟ                 ดอกมีสีม่วง หรือม่วงขาว มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ และกลีบดอกอีก 5 กลีบ กลีบดอกรูป                ขนาน และมีรยางค์เป็นเส้นฝอยสีม่วงจำนวนมาก มีก้านเกสรจะแยกออกเป็นเกสร                 ตัวผู้ 5 อัน และเกสรตัวเมียอีก 3 อัน ดอกมีกลิ่นหอม ฤดูกาลออกดอก ออกดอกตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนจะให้ดอกดกมาก การปลูก เนื่องจากเสาวรสเป็นไม้กลางแจ้งเขตร้อน ฉะนั้นจึงควรที่จะเลือกสถานที่หรือบริเวณที่ปลูกให้เหมาะสม คือจะต้องไม่ปลูกในบริเวณที่ร่วมเงาของไม้อื่นมาบดบัง ควรปลูกในที่ที่สามารถได้รับแสงแดดอจ่างเพียงพอ โดยการนำเอาต้นกล้าที่ได้จากการเพาะเมล็ด หรือกิ่งที่ได้จากการฃำหรือการทับกิ่งมาปลูกดิน

Read More »

แสเถา

ชื่อวิทยาศาสร์         Jacquemontia pentantha. ตระกูล                    CONVOLVULACEAE ชื่อสามัญ                 Little Blue Hat. ลักษณะทั่วไป ต้น        แสเถาเป็นไม้เลื้อยจำพวกเดียวกับผักบุ้ง แต่มีขนาดเล็กกว่ามีลำต้นหรือเถาคล้ายกับ                เถาวัลย์เล็ก ๆ เป็นสีน้ำตาลคล้ำ มักจะเลื้อยพาดไปตามรั้ว กำแพง หรือต้นไม้อื่นที่อยู่ใกล้ ใบ         ออกใบสลับกันตามข้อต้น ลักษณะของใบคล้ายกับใบผักบุ้ง คือ ใบรูปรีคล้ายหัวใจแต่ยาว                ปลายใบแหลม โคนใบมนเว้าเข้าหาก้านใบ ขอขใบเรียบ ก้านใบสั้นประมาณ 2-3 เซนติ                เมตรใบสีเขียวแต่ไม่เข้มมากนัก ดอก      จะออกดอกตามข้อต้นและโคนก้านใบ ดอกก็คล้ายกับดอกผักบุ้ง ดอกมีสีน้ำเงินมี 5 กลีบ                โดยมีก้านดอกยื่นยาวออกมาจากโคนก้านใบเป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มละ 3-6 ดอก รูปดอกเป็นทรง                กรม แต่ปลากดอกบานออกกว้างมาก เมื่อแสเถาออกดอกจะดูสะพรั่งไปหมดจัดเป็นไม้ที่                ให้ดอกสวยงามอีกชนิดหนึ่ง ฤดูกาลออกดอก แสเถาเป็นไม้ที่ออกดอกตลอดปี การปลูก ให้ปลูกบริเวณที่กลางแจ้ง หรืออาจปลูกริมรั้วบ้าน แล้วปล่อยให้เถาของแสเถาเลื้อยพาดรั้วบ้านก็ได้ หรืออาจจะปลูกเป็นซุ้มภายในสวนบริเวณบ้าน หรือสวนสาธารณะ เมื่อยามออกดอกดอกก็จะห้อยระย้าบานสะพรั่งสวยมาก การปลูกให้ขุดหลุมปลูกตื้น ๆ แล้ววางต้นกล้าลงกลบดินพอแน่น แล้วจึงรดน้ำให้ชุ่มก็พอ การดูแลรักษา แสง       แสเถาเป็นไม้กลางแจ้ง

Read More »

เสาวรสขาว

ชื่อวิทยาศาสร์     Passiflora Laurifolia Linn. ตระกูล               PASSIFLORACEAEชื่อสามัญ            Passiflora, Water Lemon. ลักษณะทั่วไป ต้น        เสวรสเป็นไม้เถาเลื้อยขนาดกลาง เถามีสีเขียวเข้มและเมื่อแก่เถาจะเป็นสีน้ำตาล                 มีมือเกาะออกตามซอกใบ ใบ         เป็นไม้ใบเดี่ยว ใบออกสลับกัน ใบดก ใบสีเขียวเป็นมัน เป็นรูปขอบชนาด ปลาย                ใบและโคนใบแหลม ก้านใบค่อนข้างยาก และตรงปลายก้านใบมีต่อมอยู่ 1 คู่ดอก       เป็นไม้ดอกที่มีขนาดใหญ่ เป็ฯดอกเดี่ยว ลักษณะดอกจะห้อยคว่ำลงคล้ายโคมไฟ                 ดอกมีสีม่วง หรือม่วงขาว มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ และกลีบดอกอีก 5 กลีบ กลีบดอกรูป                ขนาน และมีรยางค์เป็นเส้นฝอยสีม่วงจำนวนมาก มีก้านเกสรจะแยกออกเป็นเกสร                 ตัวผู้ 5 อัน และเกสรตัวเมียอีก 3 อัน ดอกมีกลิ่นหอม ฤดูกาลออกดอก   ออกดอกตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนจะให้ดอกดกมาก การปลูก เนื่องจากเสาวรสเป็นไม้กลางแจ้งเขตร้อน ฉะนั้นจึงควรที่จะเลือกสถานที่หรือบริเวณที่ปลูกให้เหมาะสม คือจะต้องไม่ปลูกในบริเวณที่ร่วมเงาของไม้อื่นมาบดบัง ควรปลูกในที่ที่สามารถได้รับแสงแดดอจ่างเพียงพอ โดยการนำเอาต้นกล้าที่ได้จากการเพาะเมล็ด หรือกิ่งที่ได้จากการฃำหรือการทับกิ่งมาปลูกดิน โดยขุดหลุมปลูกให้มีความกว้างลึกประมาณ

Read More »